บังคับใส่หน้ากากบนรถไฟฟ้า สกัดโควิด-19 รถเมล์รถไฟรถทัวร์โดนด้วย

“ศักดิ์สยาม” สั่งกรมรางเตรียมออกประกาศให้ผู้ใช้รถไฟฟ้าต้องใส่หน้ากากอนามัย ยกระดับสกัดไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด หลังจากนี้จะต่อยอดให้ผู้ใช้บริการรถไฟ รถเมล์ รถทัวร์ต้องใส่หน้ากากด้วย คาดประกาศใช้ไม่เกินสัปดาห์หน้า พร้อมซุ่มทำแผนรองรับการระบาดในเฟสที่ 3 พร้อมประสานกระทรวงอุตฯ-มหาดไทย จัดทำหน้ากากผ้ามาขายราคาควบคุม

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ยังได้มีการหารือกับนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เพื่อให้พิจารณาออกประกาศกรมราง เพื่อกำหนดให้ประชาชนทุกคนที่จะต้องเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้าจะต้องใส่หน้ากากอนามัย แม้ว่าปัจจุบันจะมีการสแกนผู้โดยสาร พร้อมทั้งมีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รวมถึงเครื่องมือในการวัดอุณหภูมิ หากอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียสจะขอความร่วมมือไม่ให้เข้าระบบอยู่แล้ว แต่การใส่หน้ากากอนามัยจะเป็นการเพิ่มมาตรการเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ จะใช้มาตรการให้ใส่หน้ากากอนามัยบนรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และรถทัวร์ ของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่ากระทรวงจะมีอำนาจมีกฎหมายดำเนินการได้อย่างไรบ้าง แต่เชื่อว่าในส่วนของกรมรางจะสามารถดำเนินการได้ โดยให้ ขร.ศึกษารายละเอียดระเบียบหลักเกณฑ์เพื่อให้มีแนวทางในการปฏิบัติและออกประกาศมา

ส่วนกรณีที่ประชาชนตั้งคำถามว่า ผู้ที่ไม่มีหน้ากากอนามัยจะทำอย่างไร นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อตั้งจุดจำหน่ายหน้ากากผ้าให้กับประชาชนที่จะเดินทางในราคาควบคุม โดยจะดำเนินการภายในสัปดาห์นี้ เมื่อทุกอย่างพร้อมก็จะออกประกาศต่อไป

ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า สำหรับมาตรการการเฝ้าระวังการระบาดของไวรัสโควิด-19 ของรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้น เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมาถือเป็นวันแรกที่ทุกสถานีของรถไฟฟ้า ได้ติดป้ายขอความร่วมมือผู้โดยสารให้ใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งถือเป็นมาตรการเพื่อให้ผู้ใช้บริการเกิดความมั่นใจ และป้องกันการระบาดในระบบเดินรถ ทั้งในขบวนรถและในสถานี

ส่วนกรณีถึงการเตรียมแผนรองรับหากภาครัฐโดยกระทรวงสาธารณสุขประกาศการระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3 นั้น ขณะนี้บีทีเอสได้เตรียมแผนการรองรับไว้แล้ว เช่น การใช้มาตรการบังคับให้ผู้ใช้บริการทุกคนต้องใช้หน้ากากอนามัย รวมทั้งการจำกัดช่องทางเข้า-ออกสถานีทุกแห่ง เพื่อให้สะดวกต่อการใช้เครื่องวัดอุณหภูมิเทอร์โมสแกน ตรวจวัดไข้ คัดกรองผู้เข้ามาใช้บริการ แต่การบังคับให้ผู้ใช้หน้าการอนามัยจะต้องมีประกาศทั้งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข และกรมการขนส่งทางรางออกมาบังคับ ทั้งนี้ แม้จะมีประกาศการระบาดเข้าสู่เฟสที่ 3 แต่รถไฟฟ้ายังจำเป็นอยู่ เพื่อความสะดวกของประชาชนที่ต้องใช้บริการ

ขณะที่นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า รฟม.จะยกระดับมาตรการในการดูแลความสะอาดของสถานีและขบวนรถ โดยเพิ่มการพ่นฆ่าเชื้อในระหว่างวัน นอกเหนือจากมาตรการทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อหลังปิดให้บริการแต่ละวัน นอกจากนี้ รฟม.อยู่ระหว่างจัดหาเครื่องเทอร์โมสแกนเพิ่มเติม เพื่อคัดกรองผู้โดยสารที่มีไข้ไม่ให้เข้าสู่ระบบ แต่ขณะนี้การจัดหาเครื่องเทอร์โมสแกนค่อนข้างมีอุปสรรคเนื่องจากเครื่องขาดตลาดมาก ตัวแทนจำหน่ายระบุว่าการสั่งซื้อในปัจจุบันจะได้รับของในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า รวมทั้งราคาได้ถีบตัวสูงขึ้น จากราคาเครื่องละ 100,000 บาท ขึ้นเป็นเครื่องละ 400,000 บาท ส่วนกรณีที่ว่าหากการระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3 รฟม.มีแผนและมาตรการรองรับไว้แล้ว

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งก์ กล่าวว่า ขณะนี้แอร์พอร์ตลิ้งก์ได้ยกระดับการคัดกรองผู้โดยสารก่อนเข้าสถานีโดยใช้เครื่องเทอร์โมสแกนวัดอุณหภูมิ หากพบว่ารายใดมีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศา หรือมีไข้จะขอผู้โดยสารไม่ให้เข้าเดินทางในระบบ และหากรัฐบาลประกาศว่าการระบาดเข้าสู่ในระยะที่ 3 และมีแนวทางให้ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าปฏิบัติการอย่างไร รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์พร้อมปรับแผนปฏิบัติการทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรการสูงสุด ที่จะต้องมีการบังคับให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าและรถไฟทั่วไปต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกคนนั้นจะต้องมีประกาศของกรมการขนส่งทางรางออกมา ซึ่งมีรายงานว่า ขณะนี้กรมการขนส่งทางรางกำลังพิจารณายกร่างประกาศไว้แล้ว ซึ่งมาตรการนี้จะใช้ปฏิบัติได้จริง ปริมาณหน้ากากอนามัยที่มีให้ประชาชนใช้ หรือหาซื้อได้ต้องมีเพียงพอด้วย เนื่องจากขณะนี้หน้ากากอนามัยที่ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าเคยนำมาแจกจ่ายให้ผู้ใช้บริการนั้น ปัจจุบันไม่มีแล้วเพราะหน้ากากอนามัยยังขาดตลาด แม้แต่หน่วยงานภาครัฐเองก็จัดหาซื้อยาก มาตรการบังคับให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าต้องใช้หน้ากากอนามัย จึงเป็นโจทย์สำคัญที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ต้องแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยขาดตลาดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมด้วย.