น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) รายงานต่อที่ประชุมว่า ในปีงบประมาณ 2563 ในภาพรวม ส่วนราชการมีเป้าหมายการใช้ยางพาราอยู่ที่ 90,378 ตัน งบประมาณ 45,537 ล้านบาท แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดดำเนินการใช้ยาง เพราะงบประมาณเบิกจ่ายล่าช้าไป 6 เดือน ทั้งนี้ หน่วยงานที่จะมีการใช้ยางพารามากที่สุดคือ กระทรวงคมนาคม 52,368 ตัน งบประมาณ 38,558 ล้านบาท นำมาใช้ทำถนนและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย ซึ่งได้รับการรับรองคุณภาพจากประเทศเกาหลีใต้ นอกจากนี้รัฐบาลยังมีความตั้งใจที่จะเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราของหน่วยงานรัฐ โดยได้กำหนดเป้าหมายการใช้น้ำยางสดของภาครัฐ ปีละ 330,000 ตัน ในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้
ดังนั้นทุกหน่วยงานจะต้องช่วยกันคิดและเสนอว่าจะใช้ยางพาราในโครงการใดได้เพิ่มเติมอีก ส่วนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีนต่อการส่งออกของไทยนั้น จีนเป็นประเทศผู้ซื้อยางรายใหญ่ของไทย การแพร่ระบาดของไวรัสจนถึงขั้นต้องปิดเมืองในช่วงต้นปีนั้น มีผลกระทบต่อผู้ส่งออกไทย จากข้อมูล กยท.พบว่า โรงงานผลิตหมอนและถุงมือยางพาราในหลายเมือง เช่น อู่ฮั่น ปิดดำเนินการ ท่าเรือก็ปิด ทำให้การส่งออกต้องเลื่อนออกไป คาดว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนนี้ ในขณะเดียวกันก็มีข่าวดีว่ามีโรงงานผลิตล้อยางจากจีนจะมาตั้งโรงงานในไทยเนื่องจากผลของสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ.