เปิดบทกำหนดโทษ เชือดคนขายหน้ากากอนามัยเกินราคา คุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน

เปิดบทกำหนดโทษ คนขายหน้ากากอนามัยเกินราคา คุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน กรมการค้าภายในเชือดไก่ให้ลิงดู จับกุมผู้ค้าเกือบ 40 ราย 

เรียกว่ายังมีให้เห็นอยู่ตลอด กรณีที่ประชาชนต่างออกมาโพสต์ระบายผ่านโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ ว่าหาซื้อหน้ากากอนามัยไม่ได้ หน้ากากอนามัยขาดแคลน ทั้งที่กรมการค้าภายใน ก็ออกมาชี้แจงว่าโรงงานผลิตได้ 1.35 ล้านชิ้นต่อวัน และที่สำคัญยังมีประเด็นการขายหน้ากากอนามัยเกินราคา ผู้ค้าบางคนอัปราคาไป 10-20 เท่า แหม...กะตั้งตัวได้เลยหรือ ช่างทำกันได้ลงในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) กำลังแพร่ระบาด

ในส่วนของกรมการค้าภายใน เคยเชือดไก่ให้ลิงดูไปแล้ว แต่ก็ยังพบเห็นลิงที่ยังไม่ถูกเชือดมาโพสต์ขายราคาสูงปรี๊ดกันอยู่ ลูกค้าอย่างเราๆ ที่จำเป็นต้องใช้ก็แจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 เสียเลย เพราะรับราคาเกินจริงไปมากขนาดนั้นไม่ได้ ขณะที่ย้อนไปเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา กรมการค้าภายใน ได้การดำเนินการจับกุมผู้ค้าหน้ากากอนามัยที่ขายแพงเกินจริงไปแล้ว 39 ราย โดยเป็นการขายทางออนไลน์ 5 ราย และเป็นร้านค้าทั่วไป 34 ราย ซึ่งได้ส่งดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ฐานความผิดตามมาตรา 29 ในข้อหาค้ากำไรเกินควร รวม 26 ราย และกรมการค้าภายในยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในลักษณะนี้ทุกราย เพราะถือเป็นการเอาเปรียบประชาชนในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ และใครเจอที่ไหนสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มาตรา 29 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจดําเนินการใดๆ โดยจงใจที่จะทําให้ราคาต่ำเกินสมควร หรือสูงเกินสมควร หรือทําให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการใด 

คณะกรรมการอาจกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่ถือว่าเป็นการทําให้ราคาต่ำเกินสมควร หรือสูงเกินสมควร หรือทําให้ปั่นป่วนซึ่งราคาของสินค้าหรือบริการใดก็ได้ หลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

สำหรับบทกำหนดโทษเป็นไปตามมาตรา 41 คือ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 29 มาตรา 30 หรือมาตรา 31 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม หน้ากากอนามัยยังถือเป็นหนึ่งในสินค้าควบคุม ที่ออกในประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการด้วย โดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้จำเป็นจะต้องเพิ่มเติมการกำหนดสินค้าควบคุม เพื่อดูแลป้องกัน การกำหนดราคาซื้อ ราคาจำหน่าย หรือการกำหนดเงื่อนไขและวิธีปฏิบัติทางการค้าอันไม่เป็นธรรม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 (1) และมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการด้วยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงออกประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับเป็นระยะเวลาหนึ่งปี ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป เว้นแต่จะมีการออกประกาศใหม่ นอกจากนี้ ยังรวมไปถึง การควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งหน้ากากอนามัยด้วย

(พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542)

(ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2563)

(การควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งหน้ากากอนามัย)