ไทยพาณิชย์แนะเคล็ดช้อนซื้อ คาดตลาดหุ้นผันผวน 3 เดือน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ใน การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งประกอบด้วย ส.อ.ท., สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยใน วันที่ 5 ก.พ.นี้ จะพิจารณาปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจและแนวโน้มการส่งออกปีนี้ จากเดิมที่ กกร.ได้ประเมินว่าอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะเติบโต 2.5-3% ส่งออกเติบโต 0% ถึงติดลบ 2% และอัตราเงินเฟ้อ อยู่ที่ 0.8-1.5%
“ยอมรับว่าเศรษฐกิจไทย ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ทั้งปัจจัยภายนอกที่สำคัญๆ คือการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยในประเทศให้ลดลงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศคือปัญหาฝุ่นละอองไม่เกิน 2.5 ไมครอนหรือพีเอ็ม 2.5 ปัญหาภัยแล้งที่รุนแรง จะมีผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเช่นกันจึงต้องนำปัจจัยเหล่านี้มาประกอบการพิจารณา”
ด้านนายศรชัย สุเนต์ตา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลด้านการลงทุนและที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ในเอเชียจะผันผวนมากในระยะสั้น 1-3 เดือน เนื่องจากเศรษฐกิจเอเชียเชื่อมโยงกับประเทศจีนค่อนข้างมาก ส่วนสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ แม้จะได้รับปัจจัยบวกจากความกังวลของนักลงทุน แต่อาจเผชิญความเสี่ยงจากแรงขายทำกำไร เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มแข็งค่า ขณะที่น้ำมันดิบมีแนวโน้มลดลงจากความต้องการของภาคธุรกิจที่ลดลง ทั้งนี้ สิ่งที่น่าจับตามอง คือ หากอัตราการติดเชื้อของผู้ป่วยรายใหม่ส่งสัญญาณเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง จำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มคงที่ เป็นการบ่งบอกว่าการแพร่เชื้อยุติ ซึ่งถือเป็นจังหวะที่บ่งชี้ถึงโอกาสเข้าลงทุนได้.