คอนโดมิเนียมเสียภาษีอัตราที่อยู่อาศัย

“คลัง” นัด “กทม.-มหาดไทย” หาทางออก

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้รับทราบถึงความกังวลของประชาชนที่ต้องเสียภาษีที่ดินในวันที่ 1 ม.ค.2563 ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2562 แล้ว ดังนั้นกระทรวงการคลัง จึงสั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปหารือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และกระทรวงมหาดไทย เพื่อหาทางออกให้ประชาชนไม่ต้องยุ่งยาก โดยเฉพาะผู้ที่ถือครองหรือเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียม ซึ่งได้รับหนังสือแจ้งให้ไปเสียภาษี โดยระบุว่าจะต้องเสียภาษีในลักษณะที่ดินอื่นๆหรือเชิงพาณิชย์ เริ่มต้น 0.3% หรือล้านละ 3,000 บาท และหากไม่ต้องการเสียภาษีเชิงพาณิชย์ จะต้องไปแจ้งกับสำนักงานเขตว่า เป็นบ้านพักที่อยู่อาศัย ในเบื้องต้นมีความเห็นว่าคอนโดมิเนียมทุกห้อง ไม่ควรเสียภาษี ในลักษณะเชิงพาณิชย์ แม้จะนำไปให้เช่าต่อ เพื่ออยู่อาศัยก็ตาม

ทั้งนี้ จุดประสงค์ของกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คือ ต้องการทำให้ที่ดินเกิดประโยชน์มากที่สุด และไม่สร้างภาระกับผู้เสียและผู้เก็บภาษี ดังนั้นระหว่างที่เลื่อนการจัดเก็บภาษีจากเดือน เม.ย.2563 เป็นเดือน ส.ค.2563 นั้น กระทรวงการคลังจะไปทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง

“แม้ กทม.จะเปิดให้เจ้าของคอนโดมิเนียมไปแจ้งได้ว่าเป็นที่พักอาศัยเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษีเชิงพาณิชย์ แต่ผมมองว่าทำไมต้องไปเพิ่มขั้นตอนให้ยุ่งยาก เพราะแม้ว่าคอนโดมิเนียมจะปล่อยเช่า หากเป็นการเช่าเพื่อพักอาศัยก็ต้องเสียภาษีในอัตราที่อยู่อาศัย ยกเว้นนำไปใช้วัตถุประสงค์อื่น เช่น โรงแรม หอพัก ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น ต้องแจ้งขอเปลี่ยนประเภท เพื่อเสียภาษีให้ถูกต้อง”

ส่วนกรณีผู้ถือครองที่ดินจำนวนมาก อาทิ มีที่ดิน 10,000-100,000 ไร่ เป็นต้น ถูกตีความว่าต้องเสียภาษีในเชิงพาณิชย์ หากนำไปปล่อยเช่านั้น มองว่ากรณีดังกล่าวหากให้เช่าที่ดิน เพื่อไปใช้ในทางเกษตร ควรคิดภาษีในอัตราของที่ดินเกษตร ไม่ใช่ที่ดินเพื่อพาณิชย์ โดยการเก็บภาษีอยากให้ดูการใช้ประโยชน์สุดท้ายของที่ดินมากกว่า

ขณะที่สิ่งปลูกสร้างให้ดูกฎหมายขออนุญาตสิ่งปลูกสร้างว่า ระบุถึงวัตถุประสงค์ในการขออนุญาตว่าเป็นประเภทใด ที่พักอาศัย หรือเชิงพาณิชย์ อาทิ หอพัก อพาร์ตเมนต์ โรงแรม เป็นต้น ดังนั้นหากพบคอนโดมิเนียมใช้ผิดประเภทนำไปทำโรงแรม และหอพักให้เช่า ต้องแจ้งเปลี่ยนวัตถุประสงค์การใช้ เพื่อเสียภาษีให้ถูกต้อง

ส่วนการประชุมคณะทำงานปรับโครงสร้างภาษี นายประสงค์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะต้องนำข้อสรุปจากคณะทำงานไปหารือกับนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ในช่วงต้นปี 2563 ก่อน ส่วนเรื่องภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เคยหาเสียงไว้ ที่กำลังพิจารณาแนวทางการปรับลดว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง เพราะแต่ละแนวทางกระทบต่อการจัดเก็บรายได้แตกต่างกัน.