สั่งรัฐวิสาหกิจเร่งลงทุนด่วน "กรมสรรพากร" จดมีดหมอลดเหลื่อมล้ำเสียภาษี

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

สั่งรัฐวิสาหกิจเร่งลงทุนด่วน "กรมสรรพากร" จดมีดหมอลดเหลื่อมล้ำเสียภาษี

Date Time: 5 ก.ย. 2562 08:01 น.

Summary

  • “อุตตม” สั่งรัฐวิสาหกิจลุยลงทุนด่วน ย้ำเศรษฐกิจไม่ถดถอยเพียงแค่เติบโตช้า มั่นใจสารพัดมาตรการที่ใส่เม็ดเงินลงไป จะทำให้เศรษฐกิจไทยโตถึง 3% ร้านค้าเป้าหมายชิมช้อปใช้ลงทะเบียนแล้ว 3,300 แห่ง

Latest

ปรับเกณฑ์ LTR Visa ชนิดพิเศษ ดึงต่างชาติ “คนรวย - คนเก่ง” เข้าไทย หวังเป็น ศูนย์กลาง Talent

“อุตตม” สั่งรัฐวิสาหกิจลุยลงทุนด่วน ย้ำเศรษฐกิจไม่ถดถอยเพียงแค่เติบโตช้า มั่นใจสารพัดมาตรการที่ใส่เม็ดเงินลงไป จะทำให้เศรษฐกิจไทยโตถึง 3% ร้านค้าเป้าหมายชิมช้อปใช้ลงทะเบียนแล้ว 3,300 แห่ง กรมสรรพากรลุยแก้ปมความเหลื่อมล้ำของระบบการเสียภาษี

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า สิ่งที่รัฐวิสาหกิจจะต้องเร่งดำเนินการคือ เร่งรัดการลงทุนในประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เป็นแกนหลักขับเคลื่อนการลงทุนให้เป็นไปตามแผนงานยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติในสภาวะที่ประเทศได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่ถดถอย เพียงแค่เติบโตช้าเท่านั้น เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจภายนอก ส่งผลกระทบกับประเทศไทย รัฐวิสาหกิจจึงต้องเร่งลงทุนเพื่อสร้างความเชื่อมั่น เช่น ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม หรือในระบบขนส่ง และการลงทุนระบบน้ำ

สำหรับการพัฒนารัฐวิสาหกิจก็ต้องพัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ และพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลควบคู่กับการใช้แหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ (บิ๊กดาต้า) เพื่อก้าวไปสู่รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ และเพื่อช่วยเหลือรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุน ได้ให้ สคร.ไปเป็นที่ปรึกษาแผนงานฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจ ตามพระราชบัญญัติการพัฒนาด้านการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ ปี 2562 ที่ให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย สอดคล้องไปกับยุทธศาสตร์ชาติ คาดว่าปีนี้การจัดเก็บรายได้ของรัฐวิสาหกิจจะเพิ่มขึ้นเป็น 8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน การลงทะเบียนของร้านค้า ในมาตรการ “ชิมช้อปใช้” เพื่อกระตุ้นท่องเที่ยวที่ยังมีร้านค้าสมัครมาร่วมโครงการไม่มากนัก แต่ยังมีเวลาในการรับสมัคร และอาจมีการปรับเงื่อนไขเพิ่มเติมเพื่อดึงร้านค้ามาลงทะเบียนเพิ่ม มาตรการนี้มีเป้าหมายคือ เมื่อเริ่มมาตรการแล้ว ต้องเกิดผลต่อเศรษฐกิจทันที และเมื่อทุกมาตรการลงสู่ระบบเศรษฐกิจแล้ว จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตถึง 3% ขณะที่เรื่องหนี้ครัวเรือนยังไม่น่ากังวล เพราะได้จับตาดูเรื่องนี้ตลอดเวลา

นายลวรรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ร้านค้ากลุ่มเป้าหมายของโครงการ “ชิมช้อปใช้” มีเพียง 40,000 แห่ง แบ่งเป็นโรงแรม 10,000 แห่ง ร้านอาหาร 14,000 แห่ง ร้านค้าชุมชน 10,000 แห่ง ร้านค้าจากภูมิปัญญาชาวบ้าน (โอทอป) 6,000 แห่ง ล่าสุดมียอดลงทะเบียน 3,300 แห่ง หรือเฉลี่ยต่อวันที่ 500 แห่ง ซึ่งตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนร้านค้ามาลงทะเบียนให้เป็น 1,000 แห่งต่อวัน และในวันที่ 20 ก.ย.นี้เป็นวันสุดท้ายของการลงทะเบียน

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 56 แห่ง ครอบคลุมในธุรกิจพลังงาน สื่อสาร พาณิชย์ อุตสาหกรรม การเกษตร สถาบันการเงิน มีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน 300,000 ล้านบาท มีรายได้นำส่งรัฐบาลปีละ 170,000 ล้านบาท เพื่อให้เกิดความคล่องตัวด้านการลงทุน สคร.จะเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ โดยการเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน (พีพีพี) พร้อมใช้กลไกตลาดทุนเข้ามาช่วยผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่จะทำให้ประชาชนได้ใช้บริการโครงสร้างพื้นฐานที่รวดเร็วขึ้น

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรม สรรพากร กล่าวถึงความคืบหน้าแผนการปรับโครงสร้างภาษีว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังศึกษาแนวนโยบาย โดยในส่วนของกรม โจทย์หลักคือ เรื่องปัญหาความเหลื่อมล้ำในการจัดเก็บภาษี ที่ต้องไปดูว่ามีภาษีอะไรที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งยอมรับว่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำมากที่สุด เพราะดูจากรายการที่ใช้ในการลดหย่อนภาษี พบว่าผู้ที่มีรายได้สูงได้รับประโยชน์มากที่สุด โดยภาษีที่จัดเก็บตั้งแต่ 0-35% คนที่ใช้รายการลดหย่อนมากที่สุดคือคนที่มีรายได้สูง

สำหรับเรื่องกองทุนที่จะนำมาใช้ลดหย่อนภาษีแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่จะหมดสิทธิประโยชน์ทางภาษีปลายปีนี้ กรมกำลังพิจารณาหาข้อสรุป เพราะข้อดีของการส่งเสริมการลงทุนดังกล่าวคือ ช่วยในเรื่องตลาดทุน แต่ขณะนี้ตลาดทุนเติบโตขึ้นมากแล้ว ส่วนผลเสีย คือเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากผู้ที่ได้ประโยชน์จากมาตรการนี้คือบุคคลที่มีรายได้สูงมาก จึงต้องมีการปรับปรุงใหม่.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ