โจทย์ใหญ่ใช้หนี้ 1.2 แสนล้านบาท
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยหลังเป็นประธานประชุมปรับปรุงแผนฟื้นฟูขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า ผู้บริหาร ขสมก.ได้มารายงานรายละเอียดของแผนฟื้นฟูองค์กรให้รับทราบ แต่ตนยังไม่พอใจกับแผนดังกล่าว เพราะเห็นว่าไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงให้นำกลับไปทบทวนใหม่และกลับมานำเสนอภายใน 1 เดือน จากนั้น จึงจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
“ผมได้ให้ ขสมก.ไปดูแนวทางการบริหารหนี้สาธารณะว่า จะจ่ายหนี้สะสมที่ ขสมก. มีอยู่ 128,000 ล้านบาทอย่างไร โดยให้ดูข้อสังเกตจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) มาประกอบการดำเนินงาน รวมถึงให้ดูต้นทุน ความจำเป็น และความต้องการในการใช้รถที่จะเป็นฟีดเดอร์ เชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะโหมดอื่นๆ ทั้งรถไฟฟ้าและเรือ โดยอาจใช้วิธีทยอยจัดหาเป็นช่วง 6 เดือน หรือ 1 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง”
ขณะเดียวกัน จะต้องพิจารณาแนวทางการบริหารสายทางที่มีรถร่วมเอกชนให้บริการด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทับซ้อนกัน เพื่อไม่เกิดภาวะการสูญเสียงบประมาณในสิ่งที่ไม่ควรเสีย เชื่อมั่นว่า ขสมก.จะเริ่มดำเนินการตามแผนได้ในกลางปีหน้า และมีแนวโน้มว่าทุกเรื่องอาจจะสำเร็จตามแผนเพื่อให้ ขสมก.มีผลประกอบการเป็นบวกจนสามารถดูแลตัวเองได้ เพื่อเป็นต้นแบบให้กับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอื่นๆ นำแนวทางไปปรับใช้ฟื้นฟูองค์กรต่อไป
“ผมให้ ขสมก.ไปทบทวนตัวเลขปริมาณความต้องการในการใช้รถโดยสารใหม่ทั้งหมด จากเดิมที่มีแผนจัดหารถรวม 3,000 คัน เนื่องจากปัจจุบันประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางรูปแบบอื่นๆเพิ่มขึ้นแล้ว โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่ทยอยเปิดให้บริการเพิ่มเติมอีกหลายเส้นทาง และให้ไปพิจารณาเรื่องเส้นทางทับซ้อนกับรถโดยสารเอกชนใหม่ โดย ขสมก.ต้องไม่วิ่งทับซ้อนเส้นทางรถโดยสารเอกชน ทำให้ความจำเป็นในการจัดหารถโดยสารใหม่ๆ อาจปรับลดลงไม่ถึง 13,000 ล้านบาทตามแผนงานเดิม”.