คมนาคมคิดอีกนิดขยายสัมปทาน “โทลล์เวย์”
พล.ต.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบกรอบวงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ (พีเอสโอ) ประจำปีงบประมาณ 2563 ซึ่งเป็นเงินงบประมาณที่รัฐอุดหนุนประจำเป็นรายปีให้กับรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุน หรือมีแนวโน้มขาดทุนต่อเนื่องโดยอุดหนุนให้กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) 1,775.653 ล้านบาท และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รวมวงเงิน 3,238.682 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 5,014.33 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำนักงานกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้ปรับลดจากวงเงินอุดหนุนที่ ร.ฟ.ท.เสนอ 7,076.112 ล้านบาท ลงเหลือ 3,238.682 ล้านบาท โดยปรับลด เช่น ค่าโครงสร้างพื้นฐานจาก 913.42 ล้านบาท เหลือ 176.04 ล้านบาท ค่าเสื่อมราคาจาก 1,223.835 ล้านบาท เหลือ 11.331 ล้านบาท ต้นทุนดอกเบี้ย ลดจาก 1,029.781 ล้านบาท เหลือ 41.557 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายบางส่วนรัฐเป็นผู้รับภาระอยู่แล้ว เช่นเดียวกับ ขสมก.ที่ได้รับอุดหนุน 1,775.653 ล้านบาท จากที่เสนอ 4,976.838 ล้านบาท เช่น ไม่อนุมัติเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ส่วนรถโดยสารปรับอากาศ จากที่เสนอมา 1,946.926 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่อ้างอิงได้ว่า ขสมก.ถูกควบคุมราคา
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า การประชุม ครม.ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมยังไม่ได้นำเสนอให้ ครม.อนุมัติขยายอายุสัญญาสัมปทานบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด บริษัทลูกของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม กรณีที่ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รังสิต ได้รับผลกระทบจากโครงการทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด เนื่องจากยังต้องพิจารณาในรายละเอียดต่างๆให้รอบคอบโดยยืนยันว่าทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กทพ.ไม่ได้คัดค้านเรื่องการขยายสัญญาดังกล่าว.