อาเซียนพร้อมใจเดินหน้าดัน “อาร์เซ็ป” ให้จบสิ้นปีนี้สู้สงครามการค้า

“พาณิชย์” เผยข่าวดี รมต.ศก.อาเซียน สมัยพิเศษ พร้อมใจเดินหน้าดัน “อาร์เซ็ป” ให้จบสิ้นปีนี้ หวังสู้ศึกสงครามการค้า มั่นใจสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ การค้า ลงทุน ของ 16 ชาติได้แน่

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2562 นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน สมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 21-22 มิ.ย.62 ในช่วงการประชุมสุดยอด อาเซียน ครั้งที่ 34 ณ กรุงเทพฯ เพื่อผลักดันความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ว่า การประชุมครั้งนี้ ถือว่ามีข่าวดี เพราะรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนทั้ง 10 ประเทศมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเจรจาให้สรุปผลให้ได้ในปีนี้ตามที่ผู้นำตั้งเป้าหมายไว้ เนื่องจากปัจจุบัน โลกอยู่ท่ามกลางภาวะตึงเครียดและความไม่แน่นอนทางการค้า ดังนั้น การสรุปผลการเจรจาให้ได้ตามกำหนดจะช่วยสร้างความเชื่อมั่น และเสริมสร้างความเข้มแข็ง และความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในภูมิภาคของอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ทั้ง 6 ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้แน่นอน

สำหรับการประชุมครั้งนี้ อาเซียนได้หารือถึงประเด็นที่อาเซียนยังมีท่าทีต่างกัน และตกลงที่จะมอบให้คณะเจรจาของอาเซียนไปหารือเพื่อหาท่าทีร่วมกันให้ได้ เช่น เรื่องกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า การลงทุน เป็นต้น ก่อนพบกับคู่เจรจาอีก 6 ประเทศในการประชุมครั้งต่อไป โดยสมาชิกอาร์เซ็ป 16 ประเทศมีกำหนดหารือในระดับคณะเจรจาอีก 3 ครั้ง ที่ออสเตรเลีย จีน และ เวียดนาม และระดับรัฐมนตรีอีก 2 ครั้ง ที่จีน และไทย

"การที่อาเซียนมีท่าทีร่วมกันได้ในการเจรจาหลายๆ เรื่องจะช่วยขับเคลื่อนการเจรจาอาร์เซ็ปในภาพรวมคืบหน้าตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เน้นย้ำให้อาเซียนเพิ่มความพยายามในการหารือกับคู่เจรจา 6 ประเทศ ในเรื่องที่ยังคงค้างอยู่ เพื่อหาข้อสรุปเรื่องการเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุน รวมถึงอีก 13 เรื่องที่ยังเหลืออยู่ให้ได้โดยเร็ว โดยหากการเจรจาสรุปผลได้สิ้นปีนี้ และมีผลบังคับใช้โดยเร็ว จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนของอาเซียนกับคู่เจรจาได้แน่นอน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเจรจาอาร์เซ็ป มีเรื่องต่างๆ ที่สมาชิกต้องหารือกันทั้งหมด 20 เรื่อง เช่น การเปิดตลาดการค้าสินค้า บริการ การลงทุน, ทรัพย์สินทางปัญญา, การจัดซื้อโดยรัฐ, กฎถิ่นกำเนิดสินค้า, นโยบายการแข่งขัน ฯลฯ โดยเจรจาสำเร็จแล้ว 7 เรื่อง เหลืออีก 13 เรื่องที่ต้องเจรจาให้เสร็จในปีนี้ สำหรับความคืบหน้าล่าสุดนั้น ใน 13 เรื่อง ขณะนี้ได้ข้อสรุปในเบื้องต้นแล้ว 2 เรื่องคือ นโยบายแข่งขัน และการระงับข้อพิพาท ส่วนในเรื่องการเปิดตลาดบริการ ในสาขาบริการโทรคมนาคม และการเงิน จะสรุปผลได้ในการประชุมคณะกรรมการเจรจาจัดทำอาร์เซ็ปที่เมลเบิร์น ออสเตรเลียในเดือน ก.ค.นี้ ขณะที่เรื่องพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) ตั้งเป้าจะสรุปผลให้ได้ที่เมลเบิร์นเช่นกัน 

สำหรับอาร์เซ็ป หากเจรจาสำเร็จ และมีผลบังคับใช้ จะกลายเป็นความตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีประชากรกว่า 3,560 ล้านคน หรือเกือบครึ่งของประชากรโลก มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 10.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 29% ของมูลค่าการค้าโลก.