กล้า ตั้งสุวรรณ ผู้บริหารด้านวิเคราะห์ข้อมูล มองงานกับการใช้ชีวิตต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน

โซเชียลมีเดียกลายเป็นเทรนด์สำคัญในโลกยุคนี้ ทำให้ชื่อของ “กล้า ตั้งสุวรรณ” ผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่น่าจับตามอง เพราะเขาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาจากธุรกิจการจัดการข้อมูล จนได้พัฒนาตัวเองเปิดธุรกิจด้านไอทีวิเคราะห์ข้อมูลทางโซเชียลมีเดีย และเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลในโซเชียลมีเดียที่เป็นอันดับต้นๆของประเทศ และกำลังขยายธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายประเทศ

ไม่เฉพาะความสามารถที่มีจนเป็นที่จับตามอง แต่ประวัติของผู้บริหารหนุ่มคนนี้ก็น่าสนใจ กล้า เล่าว่า ตนเป็นลูกชาย ของ สุรชัย-ผกายมาศ ตั้งสุวรรณ เติบโตในครอบครัวแบบลูกคนจีน ที่บ้านทำธุรกิจผ้า ส่วนคุณพ่อเป็นทนาย จึงทำให้ตนเติบโตมาด้วยแนวคิดของคนที่มีหัวการค้าชอบทำธุรกิจ และต้องการเป็นเจ้านายตัวเอง ด้วยความสนใจด้านไอทีคอมพิวเตอร์ จึงได้เข้าเรียนและจบปริญญาตรีด้านไอทีโดยตรงจากสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ แล้วไปต่อปริญญาโทในสาขา M.Sc. Internet System Development University of Portsmouth ประเทศอังกฤษ เมื่อจบมาแรกๆ

ก็เริ่มเรียนรู้งานจากการเป็นโปรแกรมเมอร์ทำงานให้กับบริษัท Thomson Reuters ซึ่งเป็นฝ่ายจัดการข้อมูลทางการเงิน ตลาดหุ้น ให้กับสำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งการทำงานที่นี่ทำให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับคุณค่าและความสำคัญของข้อมูลต่างๆบนโลกนี้ เช่น ข้อมูลด้านข่าว ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข วิดีโอภาพ ที่สามารถซื้อขายได้ ประกอบกับช่วงเวลานั้นโซเชียลมีเดียเริ่มฮิตขึ้นมา

จึงใช้ความรู้และประสบการณ์จากการทำงานเริ่มเขียนโปรแกรมขึ้นเองโดยใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ในการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆในโลกโซเชียล กลายมาเป็นข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภค ในตอนนั้นใช้ชื่อบริษัทว่า “โธธ มีเดีย” และขยายธุรกิจเรื่อยมา จนเป็น “ไวซ์ไซท์” ในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากภาคธุรกิจแล้วบริการของไวซ์ไซท์นี้ยังสามารถใช้กับองค์กรได้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคสังคม ภาครัฐ หรือส่วนราชการ ก็สามารถใช้บริการเพื่อวัดระดับความพึงพอใจของประชาชน หรือในเชิงนโยบายก็สามารถวัดระดับการรับรู้ความเข้าใจของนโยบายภาครัฐในโซเชียลมีเดียได้

เมื่อถามถึงแนวการทำงานของโลกยุคใหม่ ผู้บริหารรุ่นใหม่คนนี้ บอกว่า ในอนาคตต้องพัฒนาองค์กรและรูปแบบของบริการนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นไปเรื่อยๆเพื่อให้สอดคล้องกับตลาดและสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับเมืองไทย ตอนนี้เราได้พัฒนาเครื่องมือ Social seeing นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่สามารถรับรองการวิเคราะห์รูปภาพบนโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ และบริการ เช่น การวิเคราะห์การรับรู้ของแบรนด์ผ่านภาพถ่ายที่เกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมทางการตลาด นอกจากนี้ ยังเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าใช้ Wisesight Trend เพื่อติดตามกระแสต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกโซเชียลได้แบบเรียลไทม์ โดยสามารถเข้าใช้งานได้ที่ https://trend.wisesight.com  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

“ถ้าพูดถึงการทำงานหลายๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า work life balance คือ ทำงานกับใช้ชีวิตให้สมดุลกัน แต่สำหรับธุรกิจนี้และในยุคโลกดิจิทัลผมคิดว่าการทำงานแบบ work life integration คือ เราต้องบูรณาการเรื่องงานกับการใช้ชีวิตให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันน่าจะเหมาะสมที่สุดผมรู้สึกภูมิใจที่อย่างน้อยพนักงานที่ทำงานกับเราก็เป็นเสาหลักของครอบครัวได้ และภูมิใจที่สุดเมื่อเห็นแววตาปิ๊งไอเดียของลูกค้าเมื่อเห็นเดต้าจากบริการที่เรารวบรวมให้ ทำให้เขาปลดล็อกศักยภาพเกิดความคิดใหม่ๆที่จะพัฒนาแบรนด์ของตนเอง รวมถึงได้รับพลังบวกจากความสุขของคนที่ทำงานหรือสัมผัสได้ถึงความสุขลูกค้าที่พอใจในผลงานของเรา ก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว” ผู้บริหารไฟแรงกล่าวในตอนท้าย.