นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯ ยังคงเร่งดำเนินโครงการสร้างถนนพาราซอยด์ซีเมนต์ รวมทั้งสิ้น 80,000 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้ยางพาราเป็นส่วนผสมทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านตัน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการใช้ยางภายในประเทศได้อีกทางหนึ่ง ส่วนเกษตรกรชาวสวนยางที่ต้นยางมีอายุมากกว่า 25 ปี ได้สนับสนุนให้ปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่ตลาดมีความต้องการ อาทิ โกโก้ มะพร้าวน้ำหอม หรือปลูกพืชล้มลุกแซมสวนยาง เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างความมั่นคงในอาชีพนอกเหนือการทำสวนยางเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯยังดำเนินโครงการต่างๆที่ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนอาชีพ เพิ่มรายได้เสริมให้แก่เกษตรกร และสร้างเสถียรภาพราคายางพาราทั้งระบบ เช่น โครงการสนับสนุนทุนหมุนเวียนให้ผู้ประกอบกิจการยางพารา หรือกลุ่มสหกรณ์ยางพารา การวางแนวทางในการพัฒนาภาคการเกษตร โดยเน้นการแก้ปัญหา 3 ด้าน ได้แก่ การลดต้นทุนการผลิต การให้ความรู้กับเกษตรกรทำเกษตรรูปแบบใหม่ และการมุ่งเน้นด้านการตลาด ไม่ว่าจะเป็นผลผลิต หรือการจัดจำหน่าย ซึ่งต้องให้ตลาดนำการผลิต เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเกษตรกรผู้ผลิต และภาคเอกชนผู้ค้า
ส่วนความคืบหน้าการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ในโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง รายละ 1,800 บาทต่อไร่ รายละไม่เกิน 15 ไร่ วงเงินรวม 18,000 ล้านบาท ผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ขณะนี้จ่ายไปแล้วจำนวน 155.8 ล้านบาท.