“ซีพี-บีทีเอส” แหงนคอรอ รฟท.กั๊กเปิดซองราคาไฮสปีดเทรน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“ซีพี-บีทีเอส” แหงนคอรอ รฟท.กั๊กเปิดซองราคาไฮสปีดเทรน

Date Time: 12 ธ.ค. 2561 09:30 น.

Summary

  • รฟท.เปิดแล้วซองราคาไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน “ซีพี-บีทีเอส” มานั่งแป้นแล้นฟัง แต่ยังไม่ประกาศผล เพราะขอพิจารณาให้รอบคอบก่อน คาดประกาศผู้ชนะ 14 ธ.ค. ลงนามสัญญา ม.ค.62

Latest

รัฐย้ำเดินหน้าแจกเงินหมื่นเฟส 2 สมาคมค้าปลีกชงฟื้นช็อปดีมีคืนอัดเงินแสน ล.เข้าระบบ

รฟท.เปิดแล้วซองราคาไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน “ซีพี-บีทีเอส” มานั่งแป้นแล้นฟัง แต่ยังไม่ประกาศผล เพราะขอพิจารณาให้รอบคอบก่อน คาดประกาศผู้ชนะ 14 ธ.ค. ลงนามสัญญา ม.ค.62

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม รฟท.ได้เปิดซองข้อเสนอราคาของเอกชนร่วมลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง ระยะทาง 220 กิโลเมตร วงเงินลงทุนรวม 220,000 ล้านบาท ซองที่ 3 (ด้านการเงิน) โดยมี 2 กลุ่มบริษัทที่ผ่านการประเมินด้านเทคนิค (ซองที่ 2) เข้าร่วมยื่นเสนอราคาคือ กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ นำโดย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด (ซีพี) และพันธมิตร เข้าร่วมรับฟังการประเมินด้วย ซึ่งเบื้องต้นพบว่าทั้ง 2 กลุ่มบริษัทไม่ได้เสนอของบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐเกินกรอบที่กำหนดไว้ 119,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ทาง รฟท.ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเอกชนกลุ่มไหนเป็นผู้เสนอของบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐน้อยที่สุด

ทั้งนี้ ในการพิจารณาว่าเอกชนกลุ่มไหนจะเป็นผู้ผ่านเงื่อนไข ที่ปรึกษา รฟท.จะตรวจสอบเอกสาร 8 รายการ จนครบถ้วนก่อน ประกอบด้วย 1.บัญชีปริมาณงาน 2.แผนธุรกิจ 3.แผนการเงิน 4.การจัดหาแหล่งเงินทุน 5.ทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินโครงการและกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน 6.แบบฟอร์มผลตอบแทนทางการเงินตลอดอายุสัญญาการร่วมทุน 7.แบบฟอร์มจำนวนเงินที่ขอรับการสนับสนุนจากรัฐและจำนวนเงินที่รัฐได้จากเอกชน และ 8.อัตราค่าโดยสาร

จากปัจจัยดังกล่าว เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ รฟท. ยังไม่สามารถเปิดเผยราคาได้ทันที โดยต้องนำผลการตรวจสอบต่างๆ มาคำนวณก่อน หลังจากนั้นจึงจะทราบว่าใครของบสนับสนุนจากภาครัฐน้อยที่สุด ซึ่งจะเป็นผู้ชนะการประมูล โดยคาดว่าจะสามารถประกาศผลราคาได้ภายในวันที่ 14 ธ.ค.61 หรืออย่างช้าไม่เกินสัปดาห์หน้า

“ตอนนี้ทั้ง 2 กลุ่มถือว่าผ่านการพิจารณาซองที่ 3 เนื่องจากไม่ได้เสนอของบประมาณสนับสนุนจากรัฐมากกว่ากรอบวงเงินที่กำหนด เพราะหากเสนอเกินกรอบจะถือว่าตกรอบทันที โดยขั้นตอนต่อไปคงต้องให้คณะทำงานตรวจสอบก่อนว่าข้อมูลตัวเลขที่ทั้ง 2 กลุ่มส่งมาถูกต้องหรือไม่ โดยจะต้องนำตัวเลขทั้งหมดมาคำนวณเพื่อให้ได้ตัวเลขที่ชัดเจนว่ากลุ่มไหนของบสนับสนุนจากรัฐน้อยที่สุด ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะเป็นผู้ที่ชนะการประกวดราคาในครั้งนี้ เนื่องจากตัวเลขที่เสนอมามีเป็นจำนวนมากจึงยังไม่สามารถตัดสินในวันนี้ได้ ซึ่งตามกำหนดการเดิมจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะทราบผล” นายวรวุฒิกล่าว

นายวรวุฒิ กล่าวว่า ทั้งนี้เมื่อทราบผลแน่นอนแล้วว่ากลุ่มไหนเสนอของบสนับสนุนจากภาครัฐน้อยที่สุด จะยังไม่สามารถตัดสินได้ทันทีว่าจะเป็นผู้ชนะการประกวดราคาในครั้งนี้ เพราะจะต้องผ่านขั้นตอนการเจรจาต่อรองราคาอีกประมาณ 2 สัปดาห์จึงจะทราบว่าใครเป็นผู้ชนะ ทั้งนี้ตามขั้นตอนเมื่อได้ผู้ชนะแล้ว จะนำร่างสัญญาส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง คาดว่าจะสามารถประกาศผลได้ภายในเดือน ม.ค.62 จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประมาณกลางเดือนมกราคม และลงนามสัญญาไม่เกินวันที่ 31 มกราคม 62.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ