นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า หลังเข้ารับตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา นอกเหนือจากการสื่อสารกับบุคลากรในกระทรวงเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติงานที่เข้มข้นขึ้นในปีหน้า ยังได้ดำเนินแผนปฏิรูปกระทรวง หนึ่งในนั้นคือการปรับย้ายงานบางส่วนให้ไปอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่นๆที่เหมาะสม เช่น งานด้านภาพยนตร์ และงานด้านจัดเก็บสถิตินักท่องเที่ยว
ล่าสุด ได้หารือกับคณะกรรมการ (บอร์ด) ชุดใหม่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ว่าควรเพิ่มภารกิจให้ ททท.จัดเก็บสถิตินักท่องเที่ยวเอง เพราะนำไปปรับใช้ในการทำตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ท่องเที่ยวในแต่ละเดือนได้ทันที รวมถึง นำข้อมูลที่มีไปบริหารขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวเพื่อแก้ปัญหาความแออัด และความปลอดภัย โดยมองว่าไม่ซ้ำซ้อนกับงานกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพราะตนก็อยากรู้ว่าใช้วิธีเก็บสถิติแบบเดียวกันหรือไม่ใช้ความเร็วต่างกันขนาดไหน และนำข้อมูลไปทำอะไร ถ้าเป็นการแถลงสถิติเพื่อให้รู้ว่ามีแถลงนั้น มองไม่เห็นประโยชน์ โดยเบื้องต้นจะมีการตั้งคณะกรรมการกลางเฉพาะกิจขึ้นมา เพื่อประชุมร่วมกันทุกๆ 2 สัปดาห์
“เราต้องตื่นตัวเรื่องแผนเชิงปฏิบัติการมากขึ้น โดยผมอยากให้ไปถึงขั้นว่าข้อมูลที่คณะกรรมการกลางชุดนี้วิเคราะห์ร่วมกันออกมา สามารถเป็นกระจกสะท้อนถึง แนวโน้มของสถานการณ์ตลาดทั้งระยะสั้นไม่กี่เดือนข้างหน้าไปจนถึงระยะยาว สามารถนำข้อมูลไปต่อยอดในการปรับตัวและทำการตลาดได้อย่างทันท่วงที”
นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เสนอแนวคิดไปยังกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการต่อขยายเวลามาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ไปจนถึงสิ้นปี 2562 เพื่อให้นักท่องเที่ยวไทยได้รับสิทธิพิเศษนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงจากค่าที่พักและการเดินทางตามจริงสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท โดยกระทรวงการคลังเล็งเห็นแล้วว่า ท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือช่วยกระจายรายได้ไปยังเมืองรองได้จริง และอยู่ระหว่างพิจารณาเงื่อนไขเพิ่มเติม รวมถึงปรับวิธีการทำให้การยื่นขอลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรองเป็นไปอย่างสะดวกและเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น.