“กอบศักดิ์” ตีปี๊บให้ชาวตะวันออกเตรียมพร้อมรับมือ
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยในงานสัมมนา “อีอีซีเดินหน้าเชื่อมโลก ไทยแล่น โอกาสของนักลงทุนไทย” ว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจของ 3 จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ทั้งฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ในช่วงต่อจากนี้จะขยายตัวแบบก้าวกระโดด หลังได้รับอานิสงส์จากรัฐบาลกำลังผลักดัน คาดว่าภายในปี 69 ทั้ง 3 จังหวัดจะมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ขยายตัวถึง 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.9% มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงถึง 7.5 ล้านล้านบาท จากเดิมที่มี 2.2 ล้านล้านบาท และคนที่อยู่ในพื้นที่จะมีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มี 6 แสนบาทต่อคนต่อปี พุ่งขึ้นเป็น 1.7 ล้านบาทต่อคนต่อปี
“รายได้ของคนในพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นจะเทียบเท่ารายได้ของคนสหรัฐฯถือว่าเยอะมาก ไม่ต้องรอถึง 20 ปีตามยุทธศาสตร์ชาติ ถือว่าอยู่ในเมืองไทยได้สบาย ในผลบวกจะส่งผลต่อเศรษฐกิจในระยะปานกลางและระยะยาว เพราะในช่วง 5 ปี จะมีเงินลงทุนเข้ามา 1.5 ล้านล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจไทยโต 5% มีนักท่องเที่ยวเพิ่ม 10 ล้านคน สามารถลดต้นทุนโลจิสติกส์ได้ 4 แสนล้านบาทต่อปี และตำแหน่งงานเพิ่ม 1 แสนตำแหน่งต่อปี”
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันจะตีปี๊บให้โครงการอีอีซีดังในปีนี้ให้มากที่สุด โดยจะผลักดันโครงการลงทุนหลักของโครงการให้เสร็จภายในปลายปีนี้ หรือผลักดันให้ทุกโครงการสามารถลงนามในสัญญากับภาคเอกชนให้ได้ ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ศูนย์ซ่อมอากาศยาน และเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อให้แต่ละโครงการเกิดขึ้นให้เห็น ก่อนจะเข้าสู่ช่วงของการเลือกตั้งต่อไป
“ในช่วง 5 ปีจากนี้ ทุกโครงการลงทุนจะมีเม็ดเงินรวมกันถึง 1.7 ล้านล้านบาท ส่วนด้านสิทธิประโยชน์ทางด้านการลงทุนก็เตรียมไว้พร้อม โดยเฉพาะเรื่องของการดึงบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญจะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้เหลือเพียง 17% จึงอยากให้คนไทยที่ส่งลูกหลานไปเรียนต่างประเทศอย่าเพิ่งกลับไทย ให้เรียนจบแล้วมาทำงานใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายในอีอีซี จะได้จ่ายภาษีเพียง 17% เท่านั้น”.