จีนซื้อข้าว กข 43 ของไทยรายแรก พาณิชย์ ดึงลงนาม MOU ตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นตัน รวมถึงข้าวสี ข้าวพิเศษ มั่นใจเจาะตลาดจีนได้แน่ เล็งโปรโมตในสหรัฐฯ แคนาดา ยุโรป ออสเตรเลีย ฮ่องกง สิงคโปร์...
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างบริษัท เมดิฟูดส์ จำกัด และบริษัท เจอเจียงจงผาน ซีเรียล แอนด์ ออยล์ จำกัด จากประเทศจีน เพื่อผลักดันข้าว กข 43 เข้าสู่ตลาดจีน ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้หาตลาดรองรับและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับข้าวพันธุ์ กข 43 โดยบริษัทจีนที่มาลงนามในครั้งนี้ นำเข้าข้าวจากไทยอยู่แล้ว โดยเฉพาะข้าวสี และข้าวชนิดพิเศษ แต่จะหันมาเพิ่มการนำเข้าข้าว กข 43 ถือเป็นรายแรกของจีนที่นำเข้าข้าวชนิดนี้ โดยในครั้งนี้ได้ตั้งเป้านำเข้าข้าวจากไทย ทั้งข้าว กข 43, ข้าวสี, ข้าวชนิดพิเศษ ไม่ต่ำกว่า 10,000 ตัน
“ทั้ง 2 บริษัทจะร่วมมือกันทำตลาดข้าวพันธุ์ กข 43 ในจีน โดยบริษัทไทยจะเป็นผู้จัดหาข้าว กข 43 ให้กับบริษัทจีน และบริษัทจีนจะนำไปขายทั้งช่องทางการค้าปกติ และการขายผ่านอี-คอมเมิร์ซ โดยเฉพาะการขายในเว็บไซต์ Tmall.com ที่บริษัทจีนรายนี้ขายอยู่แล้ว รวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ ด้วย จะทำให้ข้าวกข 43 ของไทย เจาะอยู่สู่ตลาดจีนได้แน่” น.ส.ชุติมากล่าว
อย่างไรก็ตามคาดว่า ข้าว กข 43 ที่กำลังจะออกสู่ตลาดในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ จะมีปริมาณ 13,000 ตันข้าวสาร ซึ่งได้เดินหน้าหาตลาดรองรับผลผลิตให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกำลังจะโปรโมตในตลาดอื่นๆ อีก เช่น สหรัฐฯ แคนาดา ยุโรป ออสเตรเลีย ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น โดยมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะข้าว กข 43 ถือเป็นข้าวพันธุ์พิเศษที่มีผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่า มีค่าการแตกตัวเป็นน้ำตาลน้อย และมีค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ปานกลางค่อนข้างต่ำ ถือเป็นข้าวทางเลือกของผู้ใส่ใจสุขภาพ เมื่อหุงต้มจะมีลักษณะนุ่ม มีกลิ่นหอม
ส่วนการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากความร่วมมือกับบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป จำกัด ในการส่งเสริมสินค้าเกษตรและนวัตกรรมเกษตรไทยให้สามารถเจาะตลาดจีนแบบส่งตรงถึงมือผู้บริโภค (B2C) ผ่านเว็บไซต์ Tmall.com โดยได้เปิดตัว Thai Rice Flagship Store ซึ่งเป็นเหมือนร้านขายสินค้าข้าวจากไทย บนเว็บไซต์ Tmall.com เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และร่วมมือกับอาลีบาบาผลักดันสินค้าเกษตรอื่นๆ เช่น ข้าว และผลิตภัณฑ์ ผลไม้สด และผลไม้แปรรูป โดยได้รับผลตอบรับอย่างดีจากผู้ประกอบการไทยที่สนใจเข้าร่วมโครงการ และผู้บริโภคชาวจีนที่ให้ความสนใจสินค้าไทย ทั้งข้าว ผลิตภัณฑ์จากข้าว และผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนหมอนทอง และลำไย.