จ่อเปิดต่างชาติลงทุนอีอีซี 75% ขีดเส้นประมูล 8 โครงการก่อนเลือกตั้งปี 62

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

จ่อเปิดต่างชาติลงทุนอีอีซี 75% ขีดเส้นประมูล 8 โครงการก่อนเลือกตั้งปี 62

Date Time: 5 มิ.ย. 2561 09:50 น.

Summary

  • เคาะรูปแบบลงทุนเมกะโปรเจกต์ “อีอีซี” เปิดกว้างต่างชาติถือหุ้น 75% พร้อมขีดเส้นประมูลแล้วเสร็จ 8 โครงการก่อนเลือกตั้งต้นปีหน้า ส่วนประมูล “ท่าเรือแหลมฉบัง” เฟส 3 เอกชนไทย-เทศรุมจีบ

Latest

ที่สุดแห่งปี ! เปิด 10 ทำเล ราคาที่ดิน แพงสุด “ชิดลม-เพลินจิต” ทะลุ 3.7 ล้าน/ตร.ว. สงขลา รองแชมป์

เคาะรูปแบบลงทุนเมกะโปรเจกต์ “อีอีซี” เปิดกว้างต่างชาติถือหุ้น 75% พร้อมขีดเส้นประมูลแล้วเสร็จ 8 โครงการก่อนเลือกตั้งต้นปีหน้า ส่วนประมูล “ท่าเรือแหลมฉบัง” เฟส 3 เอกชนไทย-เทศรุมจีบ

นายมนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยภายหลังสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน ครั้งที่ 2 โครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ว่า จากการศึกษาโครงการเบื้องต้น จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนมูลค่า 95,000-105,000 ล้านบาท โดยจะเปิดกว้างให้กับทั้งนักลงทุนไทย และต่างชาติ ขณะเดียวกัน ยังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะปรับสัดส่วนให้ต่างชาติลงทุนได้เพิ่มขึ้น จากเดิมที่กำหนดสัดส่วนให้ต่างชาติลงทุนโครงการแหลมฉบัง เฟส 1 และ 2 ที่ 49% และนักลงทุนไทย 51% โดยอาจเพิ่มสัดส่วนให้ลงทุนได้ถึง 75% เช่นเดียวกับโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน แต่ต้องศึกษาข้อกฎหมายให้รอบคอบก่อน

สำหรับรูปแบบการเปิดประมูล จะแบ่งเป็น 3 สัญญา คือ สัญญา 1 โซน E มีพื้นที่ความยาวหน้าท่า 1,500 เมตร สัญญา 2 โซน F มีพื้นที่ความยาวหน้าท่า 2,000 เมตร และสัญญา 3 พื้นที่ก้นอ่าว ซึ่งยังอยู่ระหว่างประเมินเนื้อที่ใช้สอย แต่หากพบว่าภายหลังการสัมมนาครั้งนี้ มีเอกชนสนใจร่วมทุนค่อนข้างมาก อาจแบ่งแยกสัญญาเพิ่มอีก 1 สัญญา จากพื้นที่โซน F โดยการแบ่งแยกสัญญาในลักษณะดังกล่าว จะลดปัญหาผูกขาด และเกิดการแข่งขันมากขึ้น ขณะนี้ พบว่านักลงทุนหลายชาติสนใจโครงการดังกล่าว ทั้งจากจีน ญี่ปุ่น ยุโรป เยอรมนี เกาหลี และฝรั่งเศส

นายมนตรีกล่าวว่า หลังการเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ กทท.จะปรับปรุงข้อมูลตามความคิดเห็น และเปิดรับฟังครั้งที่ 3 เดือน ก.ค.นี้ โดยจะทำควบคู่ไปกับการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EHIA) จากนั้นจะประกาศเอกสารประกวดราคา ออกประกาศเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) ในเดือน ส.ค. และเริ่มต้นก่อสร้างเดือน ก.พ.62

ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการสำคัญของพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) จะประมูลปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจว่าโครงการจะเกิดขึ้นจริง และไม่มีความเสี่ยงเมื่อต้องเลือกตั้ง โดยรัฐบาลตั้งเป้านำร่องเปิดประมูล 8 โครงการสำคัญให้ได้ภายในรัฐบาลนี้ ได้แก่ 1.รถไฟไฮสปีดเทรนที่ประกาศเชิญชวนไปแล้ว 2.โครงการสนามบินอู่ตะเภา เตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็น 15 มิ.ย.นี้ 3.โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) 4.โรงฝึกช่างและอากาศยานต่างๆ 5.ท่าเรือแหลมฉบัง 6.ท่าเรือมาบตาพุด 7.โครงการพัฒนาดิจิทัลพาร์ค และ 8.เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซีไอ)

“รัฐบาลวางกรอบประกาศทีโออาร์ในเดือน ส.ค.นี้ ประมูลภายในเดือน ธ.ค.นี้ และเริ่มก่อสร้างในเดือน ก.พ.ปีหน้า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะต้องเปิดกว้างในการประมูล ไม่มีการล็อกสเปกไม่มีใครในใจที่จะให้ใครชนะ”

สำหรับสัดส่วนการลงทุน นายกรัฐมนตรี สั่งการถึงทุกโครงการในอีอีซีต้องให้คนไทยและต่างชาติเข้ามาเต็มที่ เพราะหากเปิดสัดส่วนคนไทย 51% จะมีเอกชนเข้าข่ายไม่กี่ราย ไม่เกิดการแข่งขัน ขณะนี้ทุกโครงการในอีอีซีอาจใช้รูปแบบร่วมทุนเช่นเดียวกับไฮสปีดเทรน คือ ส่วนที่ไม่ติดกฎหมายคนไทยถือหุ้น ก็พร้อมเปิดให้ต่างชาติถือหุ้น 75% แต่ส่วนใดที่ติดข้อกฎหมาย เช่น พื้นที่มักกะสัน ที่เป็นธุรกิจอสังหาฯก็ยังคงทำตามกฎหมาย คนไทยถือหุ้น 51% ยืนยันว่าไม่ต้องกังวล เพราะนี่คือโครงการลงทุนร่วมภาคเอกชน (พีพีพี) สุดท้ายก็ต้องโอนโครงการให้คนไทย.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ