จากการที่รัฐบาลออกมาประกาศยุทธศาสตร์ ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นชาติมหาอำนาจด้านการค้าผลไม้เมืองร้อนของโลก โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งจากเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งเสริมให้เกิดการบริโภคผลไม้ภายในประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
รวมทั้งช่วยสร้างโอกาสและช่องทางสำหรับการกระจายสินค้า ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อสินค้าผลไม้ที่จำหน่ายได้หลากหลาย ก่อนจะขยายตลาดผลไม้ไปสู่ต่างประเทศ ดึงเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกร สร้างมาตรฐานการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตผลไม้เมืองร้อนทั้งสดและแปรรูปให้มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทำให้ในปีนี้ตลาดผลไม้คึกคักเป็นอย่างมาก
โดยผลไม้ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ลำไย สับปะรด ทั้งนี้ หลายภาคส่วนยังได้ออกมารณรงค์และกระตุ้นให้เกิดการบริโภคผลไม้ในไทยมากขึ้น ผ่านการจัดบุฟเฟต์ทุเรียนและผลไม้ไทยที่ กำลังเป็นกระแสยอดฮิตและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างมากในตอนนี้
บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ซุปเปอร์มาร์เกตรายแรกในไทยที่จัดบุฟเฟต์ทุเรียน ได้ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ การท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย และ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา จัดงาน “THAILAND’S AMAZING DURIAN AND FRUIT FEST 2018” ต้นตำรับเทศกาลบุฟเฟต์ทุเรียนและผลไม้ไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครั้งที่ 3 โดยปักหมุดที่ 2 จังหวัด หัวเมืองท่องเที่ยวของประเทศไทย กรุงเทพฯ และชลบุรี เมืองพัทยา
ประเดิมที่แรกลานด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ บนพื้นที่ 2,400 ตารางเมตร ประสบความสำเร็จท่วมท้น บัตรขายหมด 100% ยกโมเดลการจัดงานลุยต่อที่พัทยา ชูไฮไลต์บุฟเฟต์ทุเรียนคุณภาพคัดเกรด พร้อมผลไม้ตามฤดูกาลและเมนูของหวานอีก 10 รายการ และเปิดโซน Farmer’s Market จำหน่ายสินค้าจากเกษตรกร 50 จังหวัด มากกว่า 100 ร้านค้า รวมสินค้ากว่า 300 รายการ มุ่งเป็น Best Event Destination ที่ดีที่สุดแก่ชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อสร้างมาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นว่างานบุฟเฟต์ทุเรียนและผลไม้ที่เมืองไทยมีคุณภาพยิ่งใหญ่ระดับประเทศ ที่นักท่องเที่ยวและทุเรียนเลิฟเว่อร์ต้องบรรจุไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยวหน้าร้อนประจำปี
นางสาวภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหาร เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ กล่าวว่า ท็อปส์เป็นรายแรกในไทยที่ริเริ่มจัดบุฟเฟต์ทุเรียนตั้งแต่ปี 2559 ต่อเนื่องมาถึงปีที่ 3 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี มากขึ้นเรื่อยๆจนทำให้กลายเป็นกระแสการจัดบุฟเฟต์ทุเรียนขึ้นในเมืองไทย
ล่าสุดงานดังกล่าวได้จบลงอย่างสวยงามไปแล้ว ที่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ และพร้อม เดินหน้าลุยต่อ วันที่ 8-15 มิ.ย.61 หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช จังหวัดชลบุรี โดยเตรียมทุเรียนคัดเกรดคุณภาพดีไว้สำหรับโซนบุฟเฟต์ถึง 150 ตัน พร้อมผลไม้ตามฤดูกาลและเมนูของหวานอีก 10 รายการ
สำหรับการจัดงานที่กรุงเทพฯ ณ เซ็นทรัลเวิลด์ ได้ปิดฉากอย่างสวยงามและสร้างปรากฏการณ์บุฟเฟต์ทุเรียนฟีเวอร์โดยบัตรถูกจำหน่ายหมด 100% ในเวลาอันรวดเร็วทุกวัน ทุกรอบ ผ่าน 3 ช่องทาง คือ ซื้อตั๋วหน้างาน และซื้อบัตรออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ticketmelon และแอปพลิเคชัน Wechat (สำหรับนักท่องเที่ยวจีน) โดยทันทีที่เปิดงานวันแรกก็มีนักท่องเที่ยวชาวจีนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยสัดส่วนผู้เข้ารับประทานบุฟเฟต์ในปีนี้ 60% คือนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นชาวจีนส่วนใหญ่ และอีก 40% คือ ลูกค้าคนไทย นอกจากนั้น ในโซน Farmer’s market ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากเช่นกัน
“จากกระแสตอบรับและความสำเร็จที่ท่วมท้นในรอบกรุงเทพฯ บริษัทจึงเร่งเตรียมความพร้อมวางแผนพัฒนารูปแบบการจัดงานให้ดียิ่งขึ้น และยกโมเดลงานรอบนี้เป็นต้นแบบ เพื่อต่อยอดจัดงานบุฟเฟต์ทุเรียนและสุดยอดผลไม้ไทยให้สมกับเป็นที่รอคอยของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความท้าทายครั้งใหม่ ซึ่งเป็นการไปจัดงานบุฟเฟต์ทุเรียนและผลไม้ไทยเป็นครั้งแรก เราคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีมาก”
ทั้งนี้ บริษัทได้จัดโปรโมชันพิเศษ! สำหรับผู้ถือบัตร เดอะวัน การ์ด ใช้ 3,150 คะแนน แลกซื้อบัตรบุฟเฟต์ในราคา 1 บาท จากราคา 399 บาท ที่จุดจำหน่ายบัตรด้านหน้างาน หรือเฉพาะการซื้อบัตรผ่านช่องทางออนไลน์ www.ticketmelon.com รับมายช้อยส์ไทยมะม่วงอบกรอบ มูลค่า 119 บาท และคูปองส่วนลด รวม 120 บาท นอกเหนือไปจากการกระตุ้นให้เกิดการบริโภคทุเรียนและผลไม้ไทยผ่านการจัดอีเวนต์แล้ว เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ยังตั้งเป้ารับซื้อผลไม้ตามฤดูกาลจากเกษตรกรในปี 2561 รวม 70 ชนิด 67 จังหวัด กว่า 1,600,000 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 30% โดยเฉพาะทุเรียนที่กำลังฮอตฮิต ที่ตั้งเป้าขายกว่า 1,000 ตัน
เพื่อช่วยเกษตรกรมีรายได้ ที่ดีอย่างยั่งยืน!!
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th