กรมสรรพสามิตเตรียมเก็บภาษีรถมอเตอร์ไซค์เพิ่มหวังลุยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามการปรับโครงสร้างภาษีใหม่...
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า หลังจากปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค.2559 เช่น กลุ่ม อีโคคาร์ ที่รถยนต์กลุ่มนี้ปล่อยก๊าซ CO2 ไม่ถึง 120 กรัมต่อกิโลเมตร (กม.) เสียภาษีสรรพสามิต 17% รถยนต์นั่งขนาดกลางความจุตั้งแต่ 1800-2000 ซี.ซี. เช่น รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง อี 20 เสียภาษีสรรพสามิต 25% ของขายปลีกแนะนำ กรมฯจึงได้นำแนวคิดดังกล่าวมาใช้กับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นกลุ่มปล่อยมลภาวะด้วยเช่นกัน เนื่องจากเห็นว่ามอเตอร์ไซค์วิ่งตามท้องถนนจำนวนมากปล่อยมลภาวะออกสู่บรรยากาศ ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดว่าควรกำหนดมาตรฐานยกเว้นขนาดกระบอกสูบเท่าใด และมีระยะเวลาก่อนการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัว เหมือนกับการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์จากขนาดของเครื่องยนต์มาเป็น CO2
สำหรับแนวทางปรับลดอัตราภาษีศุลกากรนำเข้ารถยนต์ ตนเห็นว่าหากราคานำเข้าสินค้าบวกอากร ณ ท่าเรือ (ราคา ซีไอเอฟ) ปรับลดลงจะช่วยลดปัญหาสำแดงภาษีนำเข้าเป็นเท็จ ต่ำกว่าความเป็นจริงได้ และส่งผลต่อราคาขายปลีกแนะนำอย่างชัดเจน เพื่อคำนวณจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิต สร้างความเป็นธรรมและเก็บบนฐานภาษีเดียวกัน การยื่นสำแดงภาษีจะตรงความเป็นจริงมากขึ้น
“กรมจะขยายฐานภาษีไปยังสินค้าก่อมลภาวะ เช่น ถ่านหิน หรือการปล่อยน้ำเสียจากโรงงานและขยะอิเล็กทรอนิกส์ จะใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจศาสตร์เหล่านี้ มาผลักดันออกเป็นกฎหมายเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม”
สำหรับกรณีโรงงานยาสูบออกแบรนด์ใหม่สู่ตลาดเพื่อลดผลกระทบจากการปรับโครงสร้างภาษียาสูบฉบับใหม่ เพราะ การออกแบรนด์ใหม่ Wonder S ขายราคาถูกลง นับเป็นการปรับกลยุทธ์ทางการค้า ถือว่าดำเนินการได้ เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัว.