นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่า ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อออนไลน์ว่ามีเจ้าของรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการมาตรการรถยนต์คันแรกกว่า 100,000 ราย ไม่สามารถโอนรถยนต์ให้กับบุคคลอื่นได้ เนื่องจากข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์แจ้งว่ารถคันดังกล่าวถูกกรมสรรพสามิตระงับการโอนสิทธิ์ ซึ่งกรมสรรพสามิตได้ชี้แจงว่า รถคันดังกล่าวอยู่ในข่ายกำลังถูกตรวจสอบจาก สตง.นั้น สตง.ขอชี้แจงว่า ได้ตรวจสอบโครงการรถยนต์คันแรกเสร็จสิ้นตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 แล้ว และได้เสนอรายงานฉบับสมบูรณ์ให้กรมสรรพสามิตเพื่อดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ สตง. ในช่วงเดือน มี.ค. 2559 ดังนั้น ข้อมูลที่ปรากฏทางสื่อออนไลน์ว่าเจ้าของรถยนต์ 100,000 ราย ไม่สามารถโอนรถให้กับบุคคลอื่นได้ โดยมีการพาดพิงว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในข่ายกำลังถูกตรวจสอบจาก สตง. จึงไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สตง.ได้มีข้อเสนอแนะให้กรมสรรพสามิตตรวจสอบเอกสารหลักฐานของผู้ได้สิทธิรถยนต์คันแรกทั้งหมด หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามมติ ครม.และแนวทางที่กำหนดให้ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และหากพบว่าเป็นการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามควรแก่กรณี แต่หากเป็นการกระทำผิดของผู้ขอใช้สิทธิให้เรียกเงินคืน ซึ่งกรมสรรพสามิตได้มีหนังสือแจ้งผลการดำเนินการล่าสุด ลงวันที่ 4 ส.ค.2560 ชี้แจงว่า กรมสรรพสามิตได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานของผู้ใช้สิทธิที่ได้รับสิทธิคืนเงินตามโครงการฯไปแล้วทั้งสิ้น 1,020,162 ราย หรือคิดเป็น 92.5% ของผู้ใช้สิทธิที่ได้รับเงินคืนแล้ว โดยพบว่ามีผู้ขอใช้สิทธิไม่ปฏิบัติตามมติ ครม.และไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด จำนวน 52 ราย.