ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรมสรรพสามิตว่า ภายในสัปดาห์นี้กรมสรรพสามิตจะได้ข้อสรุปแนวทางในการแก้ไขโครงสร้างภาษียาสูบใหม่ หลังจากที่โรงงานยาสูบออกมาระบุว่า โครงสร้างภาษีที่จัดเก็บบุหรี่มวนละ 1.20 บาท และเก็บภาษีทางด้านมูลค่า กรณีราคาขายปลีกต่ำกว่า 60 บาทต่อซอง เสียภาษีในอัตรา 20% และหากราคาขายปลีกสูงกว่าซองละ 60 บาท เสียภาษีในอัตรา 40% นั้น ทำให้เกิดช่องโหว่ส่งผลให้บุหรี่ที่นำเข้าจากต่างชาติอย่างน้อย 2 ยี่ห้อ ดัมพ์ราคาขายปลีกลงมาอยู่ในระดับเดียวกับบุหรี่ที่ผลิตจากโรงงานยาสูบ
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตระบุว่า ที่ผ่านมาไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เชิญผู้นำเข้าบุหรี่ต่างประเทศมาหารือเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่เนื่องจากราคาบุหรี่ต่างประเทศที่นำเข้าถูกกว่าบุหรี่ที่ผลิตได้จากโรงงานยาสูบมาก ทำให้การปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ในครั้งนี้บุหรี่ต่างประเทศนำเข้ามีราคาถูกลงเช่น แอลแอนด์เอ็ม 7.1 เดิมขายปลีกซองละ 72 บาท ลดราคาลงมาเหลือซองละ 60 บาท เท่ากับราคาบุหรี่ที่ผลิตจากโรงงานยาสูบ ซึ่งกรมได้หารือภายในมาแล้ว 3 ครั้ง และคาดว่าสัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุปและเสนอให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง รับทราบและเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแนวทางแก้ไขเรื่องดังกล่าว โดยจะมีการออกกฎระเบียบเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้ค้าบุหรี่ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้รับความยุติธรรมโดยไม่จำเป็นต้องเสนอแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิตที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา.