"อภิรดี" แจ้งข่าวดี "ยูเอสทีอาร์" ประกาศทบทวนสถานะไทยด้านทรัพย์สินทางปัญญานอกรอบ คาดหลุดแน่ จากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ มาอยู่บัญชีประเทศที่ถูกจับตามอง หลังถูกแช่แข็งมา 11 ปี คาดรู้ผลปลายปีนี้ หนุนค้าลงทุนดีขึ้น...
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังการเดินทางเยือนสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 12-17 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า ได้พบหารือกับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งยูเอสทีอาร์ ชื่นชมไทยให้ความสำคัญด้านการคุ้มครองและป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และแจ้งว่า ยูเอสทีอาร์ ได้ประกาศเปิดทบทวนสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยนอกรอบการทบทวนปกติ เพื่อปรับสถานะไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ (พีดับบลิวแอล) ภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ หลังจากที่จัดให้ไทยอยู่ในบัญชีนี้มาแล้ว 11 ปี นับตั้งแต่ปี 50 เป็นต้นมา โดยน่าจะทำให้สถานะไทยดีขึ้น คาดจะประกาศผลภายในปีนี้
"ยูเอสทีอาร์ จะเปิดรับความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งภาคเอกชนเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 1 เดือน ตามขั้นตอนการทบทวนนอกรอบ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะจัดทำความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อยูเอสทีอาร์ด้วย คาดว่าจะประกาศผลการพิจารณานอกรอบในครั้งนี้ภายในปลายปีนี้ ซึ่งจะทำให้ภาพลักษณ์ของไทยดีขึ้น และบรรยากาษการค้า การลงทุนจะดีขึ้นมาก โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่อาศัยทรัพย์สินทางปัญญาเป็นตัวขับเคลื่อน เช่น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการบันเทิง เป็นต้น"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยูเอสทีอาร์ จะประกาศสถานะประเทศคู่ค้าด้านทรัพย์สินทางปัญญา ตามกฎหมายการค้า มาตรา 301 พิเศษ ในช่วงปลายเดือน เม.ย.ของทุกปี โดยล่าสุด เมื่อเดือน เม.ย. 60 ยูเอสทีอาร์ได้ประกาศสถานะไทยอยู่ในบัญชีพีดับบลิวแอลต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 แต่ได้ระบุว่า อาจมีการทบทวนสถานะไทยนอกรอบ เพราะทางการไทยให้ความสำคัญกับการปราบปรามการละเมิดมาก และกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ รวมถึงมีการแก้กฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาการละเมิด ส่งผลให้การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ ในไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัด และนำมาซึ่งการประกาศทบทวนสถานะนอกรอบในครั้งนี้ และคาดว่าสถานะน่าจะดีขึ้น มาอยู่ที่บัญชีประเทศที่ถูกจับตามอง (ดับบลิวแอล).