นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศ ไทย (กพท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำกับ กพท. ว่าที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (Re AOC) ให้กับสายการบินที่ทำการบินระหว่างประเทศรวม 23 สายการบิน มีขอถอนตัว 2 สายการบิน คงเหลือ 21 สายการบิน ซึ่งผ่านการ ตรวจสอบแล้ว 8 สายการบิน และอีก 2 สายการบินคือ สายการบินนิวเจน แอร์เวย์ส และสายการบินเอ็มเจ็ท อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบและพบว่ายังมีข้อที่จะต้องแก้ไข โดยเฉพาะแนวทางปฏิบัติจริงยังไม่สอดคล้องกับที่กำหนดไว้ในคู่มือ จะต้องเร่งแก้ไขให้แล้วเสร็จ “ขณะนี้มี 2 สายการบินที่ประเมินแล้ว เห็นว่าจะไม่สามารถผ่านขั้นตอนการตรวจสอบเพื่อออกใบรับรองเดินอากาศใหม่ได้ทันตามกำหนด และแจ้งจะขอเปิดทำการบินภายในประเทศแทน ได้แก่ สายการบินเวียตเจ็ทแอร์และสายการบินโอเรียนท์ไทย และอาจมีสายการบินอื่นๆแจ้งเข้ามาเพิ่มเติม ดังนั้น จะเสนอขอที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กบร.) ที่มี รมว.คมนาคมเป็นประธาน พิจารณาอนุมัติเพิ่มเที่ยวบินและเส้นทางบินใหม่ภายในประเทศได้ เพื่อช่วยเยียวยาให้กับสายการบินที่ยังไม่ได้รับใบรับรองการเดินอากาศใหม่ ลดผลกระทบทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สายการบินเอ็มเจ็ท จะต้องเร่งแก้ไขข้อบกพร่องที่พบให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือน ส.ค.นี้ หากไม่ทันก็มีแนวโน้มว่าจะไม่ได้รับใบรับรองเดินอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างแน่นอน เนื่องจากเอ็มเจ็ทเปิดให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำระหว่างประเทศในเส้นทางบินยุโรปด้วย โดยเบื้องต้นกำหนดว่า สายการบินที่ยังไม่ได้รับใบรับรองเดินอากาศใหม่ภายในเดือน ส.ค.นี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. จะต้องหยุดทำการบินเส้นทางบินระหว่างประเทศทันที แต่ยังสามารถทำการบินเส้นทางบินภายในประเทศไทยได้ โดยสำหรับสายการบินที่ได้รับอนุมัติใบรับรองเดินอากาศใหม่ รวม 8 สายการบิน ประกอบด้วย บางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย การบินไทย นกแอร์ นกสกู๊ท ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ไทยสมายล์และไทยไลอ้อน แอร์ และสายการบินต่อไปน่าจะเป็นนิวเจน แอร์เวย์ส.