นับเป็นโรงแรมระดับหรูแห่งแรกในหัวหิน สำหรับ “ดุสิตธานี หัวหิน” บนผืนที่ดินกว่า 100 ไร่ ซึ่งตามประวัติ มีการเปิดให้บริการมานานกว่า 35 ปี (ปี 2533)
ส่วนหนึ่งของเครือดุสิตธานี ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการบริการเป็นที่ยอมรับในระดับสากล บนจุดเด่นทางกายภาพที่หาได้ยาก เพราะโรงแรมนี้ตั้งอยู่บนทำเลที่สวยงามริมชายหาดที่ยาวที่สุดในหัวหิน เงียบและสงบ ขึ้นแท่นเป็นเป้าหมายของการพักผ่อนระดับหรูหราของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาช้านาน
ขณะเดียวกันเปิดตัวของดุสิตธานี หัวหิน ในช่วงเวลานั้น ก็ถือเป็นการแนะนำแบรนด์ดุสิตเข้าสู่ตลาด Hospitality ระดับโลก ที่ได้กลายเป็นโอกาสสำหรับการขยายธุรกิจบริการของดุสิตไปยัง 20 ประเทศ อีกด้วย
ล่าสุด กลุ่มบริษัทดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ประกาศความเคลื่อนไหวในแง่การลงทุนใหม่ในทำเล “หัวหิน” อีกครั้ง อย่างน่าจับตามองโดยวันนี้ “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี ระบุว่า จากในอดีต กลุ่มดุสิตเน้นประกอบธุรกิจ 2 กลุ่มใหญ่ คือ โรงแรม และการศึกษา
ก่อนมีการขยายเพิ่มเติมไปยังไลน์ธุรกิจด้านอาหาร (ดุสิต ฟู้ดส์) และล่าสุด คือ การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย
นำร่องโดยโปรเจ็กต์ “ดุสิต เซ็นทรัลพาร์ค” มิกซ์ยูสกลางเมืองขนาดใหญ่ มูลค่า 46,000 ล้านบาท ผ่านโครงการที่อยู่อาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรี่ 2 แบรนด์ ได้แก่ …
-“ดุสิต เรสซิเดนเซส”
-“ดุสิต พาร์คไซด์”
ซึ่งคาดจะแล้วเสร็จทั้งโปรเจ็กต์ ช่วงปี 2569 ทั้งนี้ จากการตอบรับที่ดีเกินคาด สะท้อนจากยอดขายที่ใกล้จะปิดการขาย ได้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่บริษัทมองเห็นชัดเจนขึ้น ประกอบกับดุสิตไม่ยึดติดกับรูปแบบธุรกิจแบบเดิมๆ มีความ Diversify ในการสร้าง “สมดุล” และ “ขยาย” ไปยังทุกตลาด
จึงมีความพร้อมในการลงทุนใหม่ในกลุ่มอสังหาฯ เพิ่มเติม พร้อมวางตำแหน่งการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี ที่ชูจุดแข็งด้านบริการระดับหรูหราและมีคุณภาพระดับสากลมากกว่า 70 ปี ผ่านเชนบริษัทดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล
สำหรับการเดินเกมใหม่นั้น “ดุสิต” จะรุกพลิกพื้นที่แห่งประวัติศาสตร์และความทรงจำ อย่างทำเล “หัวหิน” เปิดโครงการครั้งสำคัญ ภายใต้ชื่อ “ดุสิต อจารา หัวหิน” (Dusit Ajara Hua Hin) มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท
ซึ่งผู้บริหารดุสิต ระบุ โครงการนี้จะนับเป็นโครงการแบบ Branded Residences สัญชาติไทยแห่งแรกของหัวหิน ผ่านการเตรียมพัฒนา “ที่ดิน” เก็บเก่า ขนาด 20 ไร่ ติดโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน เป็นโครงการที่อยู่อาศัยระดับบน แบบ Leasehold หรือการเช่าแบบระยะยาว 30 ปี ต่อสัญญาอีก 30 ปี
ประกอบไปด้วย 7 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น จำนวน 4 อาคาร และอาคาร 6 ชั้น จำนวน 3 อาคาร รวมทั้งสิ้น 96 ยูนิต
โดยยูนิตเพื่อขาย มีขนาดตั้งแต่ 1 ห้องนอน ขนาด 70 - 90 ตารางเมตร, 2 ห้องนอน ขนาด 120 - 180 ตารางเมตร, 3 ห้องนอน ขนาด 250 ตารางเมตร และเพนท์เฮ้าส์ ยูนิตพิเศษของแต่ละอาคาร
ทั้งนี้ “ศุภจี” ให้ข้อมูลรายละเอียดของโครงการ “ดุสิต อจารา หัวหิน” ว่า จะเป็นโครงการที่ผสมผสานความเชี่ยวชาญของกลุ่มดุสิตธานี ทั้งด้านการบริหารโรงแรม (Hotel Management) และการบริการ (Hospitality Services Management) ซึ่งนับเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของบริษัท
ขณะเดียวกัน ยังสะท้อนศักยภาพด้านโอกาสในการสร้างรายได้ของกลุ่มดุสิตธานี ด้วยการใช้ประโยชน์จากที่ดินรอการพัฒนา (Land Bank) ซึ่งเป็นที่ดินที่มีศักยภาพสูง นำมาพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของกลุ่มบริษัท
“เราไม่ได้ตั้งใจทำแค่โปรเจ็กต์อสังหาฯ แต่จะนำความเชี่ยวชาญด้านบริการนานนับ 70 ปี มาพัฒนาความเป็นอยู่ ในนิยามลักชัวรีในรูปแบบของดุสิต ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่ความหรูหรา อีกทั้งยังจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับแลนด์แบงก์ที่มีอีกด้วย”
สำหรับศักยภาพของทำเลหัวหินนั้น มองเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศไทยที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและมีความผูกพันระหว่างคนไทยและชาวต่างชาติมาอย่างยาวนาน
อีกทั้งหัวหิน เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ของชายหาดที่สวยงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ และยังคงมีแนวโน้มการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้หัวหินเต็มไปด้วยโอกาสในการพัฒนา
อีกทั้งการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐภายใต้นโยบายของการพัฒนาให้เป็น Smart City การขยายตัวของเมือง และการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งระยะสั้นและระยะยาว ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของตลาด โดยเฉพาะในตลาดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงอัลตร้าลักซ์ชัวรี ที่ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมไปถึงโครงการแบบ Branded Residences ที่ได้ความสนใจเป็นพิเศษ ปัจจัยส่งเสริมเหล่านี้
“หัวหิน เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน เดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ภายใต้แผนพัฒนาของรัฐบาลในหลายๆ ด้าน นี่เองทำให้หัวหินติด Top 5 ของประเทศ สำหรับคนเดินทาง”
สำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้ซื้อ โครงการ ดุสิต อจารา หัวหิน (Dusit Ajara Hua Hin) ตั้งเป้า 60% เป็นคนไทย และอีก 40% เป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากที่ผ่านมา เห็นดีมานด์ความต้องการของกลุ่มชาวต่างชาติอย่างมาก
โดยเฉพาะกลุ่มสแกนดิเนเวีย ชาวยุโรป ที่หลงใหลชื่นชอบการเข้ามาพักอาศัยระยะยาวของโรงแรมดุสิตธานีหัวหิน ในระดับสูงสัดส่วนกว่า 50% โดยโครงการ ดุสิต อจารา หัวหิน เตรียมเปิดพรีเซลในช่วงเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งจะเป็น Branded Residences ในช่วงราคา 2-2.5 แสนบาท/ตร.ม. หรือยูนิตเริ่มต้นไม่เกิน 20 ล้านบาท เริ่มก่อสร้าง ปี 2569 และจะแล้วเสร็จปี 2571
ซึ่งกลุ่มดุสิตธานีเชื่อมั่นว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติและเพิ่มโอกาสการเข้าพักระยะยาวของชาวต่างชาติ รวมถึงยังสามารถต่อยอดเพิ่มฐานลูกค้าทั่วโลก โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์การตลาดที่เสริมสร้างภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งผสานเข้ากับความงดงามของวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อกระตุ้นความต้องการที่อยู่อาศัยบนพื้นที่ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของคนทั่วโลกในการใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์ระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี ก่อนเตรียมต่อยอดแบรนด์ “อจารา” ไปยังทำเลอื่นๆ ที่มีศักยภาพ
ที่มาพร้อมบริการระดับ 5 ดาวให้กับผู้พักอาศัย เช่น สิทธิ์การบริการ Concierge 24 ชั่วโมง บริการแม่บ้านทำความสะอาดที่พักอาศัย สัปดาห์ละ 2 ครั้ง และกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ และสิทธิประโยชน์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ Dusit Gold Platinum ที่สามารถใช้บริการโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีที่ร่วมสิทธิ์ทั่วโลก
“โครงการ ดุสิต อจารา หัวหิน จะเป็นการบัญญัติมาตรฐานบทใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในด้านการขยายขีดจำกัดของศักยภาพในการบริหารสินทรัพย์ของกลุ่มบริษัทดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล”
สำหรับมุมมองด้านเศรษฐกิจนั้น ผู้บริหารหญิงคนดัง ระบุว่า แม้ในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจโลกยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน จากหลายปัจจัย อย่างการจัดระเบียบโลกใหม่ โดยเกมห่ำหั่นของมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคในแง่การลงทุนแต่อย่างใด เนื่องจากมีกลยุทธ์ และศึกษาสภาพความต้องการ และโอกาสของตลาดอสังหาฯ มาอย่างดีแล้ว
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล