Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

ตั้งทีม ฉก.ปราบสินค้าห่วย-นอมินี

Date Time: 14 มี.ค. 2568 07:30 น.

Summary

  • พาณิชย์ ร่วมกับ 17 หน่วยงานภาครัฐตั้งคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศผิดกฎหมายเพิ่มเติมอีก 1 ชุด โดยมีรองปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นหัวหน้าทีม ลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า การจดทะเบียนธุรกิจ และธุรกิจนอมินีทั่วประเทศ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ร่วมกับ 17 หน่วยงานภาครัฐว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศผิดกฎหมายเพิ่มเติมอีก 1 ชุด โดยมีร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นหัวหน้าทีม เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า การจดทะเบียนธุรกิจ และธุรกิจนอมินีทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปราม


“การตั้งคณะทำงานขึ้นเพิ่มเติมอีก 1 ชุด เพื่อทำให้การปราบปรามมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะตัวเลขผลปราบปรามที่ได้ยังไม่น่าพอใจ จึงต้องให้เข้มข้นมากขึ้นอีก ซึ่งคณะทำงานชุดนี้จะลงพื้นที่ตรวจสอบจังหวัดที่มีความเสี่ยงเกิดนอมินี เช่น ชลบุรี ที่ขณะนี้ทราบว่า ล้งผลไม้บางรายจากเดิมเป็นล้ง (ผู้รวบรวม คัดแยก ส่งออกผลไม้) แต่กลับมาปลูกผลไม้แทน และยังมีการถือครองที่ดินของนิติบุคคลที่มีต่างชาติถือหุ้นอยู่ ซึ่งต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้นเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง”


นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้ขยายความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ในการนำกฎหมายของ กขค.มาบังคับใช้กับภาคธุรกิจ เพื่อทำให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมระหว่างธุรกิจไทยและธุรกิจต่างชาติ และป้องกันการเอาเปรียบ เช่น ไม่ใช้อำนาจเหนือตลาดจนทำให้ธุรกิจเล็กเสียหาย ไม่ฮั้ว หรือร่วมกันกำหนดราคาขายสินค้าอย่างไม่เป็นธรรม ฯลฯ


พร้อมกันนั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบการขอรับการจัดสรรงบกลาง 104 ล้านบาท สำหรับแก้ไขสินค้าไม่มีคุณภาพ โดยอนุมัติตามคำขอของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อจัดตั้งห้องปฏิบัติการด่านอาหารและยา ณ ท่าเรือแหลมฉบังและด่านเชียงของ วงเงิน 101.7 ล้านบาท และให้คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อเพิ่มศักยภาพการตรวจสอบและเฝ้าระวังการขายสินค้า 1.8 ล้านบาท รวมถึงให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) อีก 540,000 บาท


สำหรับผลการปราบปรามสินค้าไร้มาตรฐานที่ส่วนใหญ่นำเข้าผ่านทางออนไลน์ และการปราบปรามธุรกิจที่มีคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อให้ทำธุรกิจในไทยโดยไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายนั้น มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้ 1,500 ล้านบาท จากสินค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาท และดำเนินคดีสินค้าผิดกฎหมาย 24,626 คดี ความเสียหาย 1,257 ล้านบาท ส่งผลให้ลดการนำเข้าสินค้าผ่านอี-คอมเมิร์ซ 8% หรือเฉลี่ยเดือนละ 3,645 ล้านบาท และกวาดล้างธุรกิจนอมินี 851 ราย ความเสียหาย 15,121 ล้านบาท

ขออภัยในความไม่สะดวก ระบบกำลังตรวจสอบการใช้งาน กรุณาลองใหม่อีกครั้ง

Thairath Poll

สำรวจข้อมูลทางประชากรศาสตร์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์

คุณประกอบอาชีพใด

การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)