Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

ปรับเกณฑ์แจกเงินหมื่นเฟส 3 "พิชัย" หวัง กนง. ลดดอกเพิ่มความร้อนแรงให้เศรษฐกิจโต

Date Time: 25 ก.พ. 2568 09:30 น.

Summary

  • "พิชัย" เผยแจกเงินหมื่นเฟส 3 ปรับเกณฑ์ใหม่ แต่ยังอุบไต๋ พร้อมหวัง กนง. 26 ก.พ.นี้ ลดดอกเบี้ยนโยบาย เพิ่มความร้อนแรงให้เศรษฐกิจโตต่อเนื่อง

"พิชัย" เผยแจกเงินหมื่นเฟส 3 ปรับเกณฑ์ใหม่ แต่ยังอุบไต๋ พร้อมหวัง กนง. 26 ก.พ.นี้ ลดดอกเบี้ยนโยบาย เพิ่มความร้อนแรงให้เศรษฐกิจโตต่อเนื่อง ขณะที่กรมบัญชีกลางชี้นายกฯ เรียกคุยรายกระทรวง เร่งเบิกจ่ายงบลงทุน ย้ำมีงบเหลื่อมปีรอเบิกจ่ายกว่า 1.2 แสนล้านบาท เร่งดันลงต่างจังหวัด

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดโครงการเติมเงิน 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 3 (ดิจิทัลวอลเล็ต) ซึ่งยังมีงบเหลืออีก 157,000 ล้านบาท และอาจปรับเปลี่ยนรายละเอียดโครงการบางประการ แต่ยังไม่สามารถบอกได้ ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 26 ก.พ.นี้นั้น หากมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ ถือว่าเป็นจังหวะที่ดี เพราะเศรษฐกิจไทยดีขึ้น และจะส่งผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มความร้อนแรงของเศรษฐกิจได้ ส่วนเงินเฟ้อจะต้องควบคุมให้อยู่ในระดับที่พอดีด้วย

“ถ้ามองว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีที่แล้วอยู่ที่ 2.5% เท่านั้น ก็ต้องพิจารณาด้วยว่า 2 ไตรมาสแรกของปีที่แล้วรัฐบาลทำอะไรไม่ได้มาก เพราะงบปี 67 ออกมาล่าช้ากว่ากำหนด ขณะที่ไตรมาส 3 และ 4 รัฐบาลทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 3% และ 3.2% ตามลำดับ ถือว่าขยายตัวได้ต่อเนื่อง หากนำภาพเศรษฐกิจครึ่งแรกของปีก่อน ที่มีข้อจำกัดมากมายมาวิเคราะห์ ก็อาจวิเคราะห์ผิดได้”

สำหรับการลดดอกเบี้ยนโยบาย นอกจากลดต้นทุนทางการเงินให้ประชาชนและภาคธุรกิจแล้ว ยังช่วยทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง เป็นผลดีต่อการส่งออก และยังช่วยให้สถาบันการเงินมีความยึดหยุ่นในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ซึ่งล่าสุด ตนได้หารือกับรัฐบาลญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นบอกว่า เขาเป็นประเทศส่งออก ได้ประโยชน์จากการส่งออกเพราะค่าเงินเยนอ่อน แม้ผู้นำเข้าได้รับผลกระทบบ้าง แต่เศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ฟื้นขึ้นมาได้

“ค่าเงินอ่อนเป็นผลของการใช้มาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ย การปล่อยสินเชื่อ ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตอนนี้ถ้ามองเรื่องอะไร ต้องไม่มองด้านเดียว ต้องมองว่าทำอย่างไรให้มีเงินหมุนเวียน และเหมาะสมกับสถานการณ์ หวังว่าการมองอะไรด้านเดียวจะต้องมองให้เกิดความสมดุลด้วย”

ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ โดยเฉพาะให้เอสเอ็มอีนั้น กระเตื้องขึ้นแล้ว ขณะที่อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) ก็พยายามให้ผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม ได้หารือกับ ธปท.และสถาบันการเงินเรื่องการเพิ่มมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน และปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเร็วๆนี้จะมีมาตรการเพิ่มเติม ขณะที่โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ลูกหนี้หลายรายยังไม่เข้าโครงการ บางรายอาจไม่ทราบว่ามีโครงการนี้ บางรายอาจไม่รับสายจากสถาบันการเงิน เกรงจะเป็นมิจฉาชีพ ดังนั้น อาจปรับปรุงวิธีการเพิ่ม เพื่อให้ลูกหนี้เข้าถึงโครงการนี้ได้มากขึ้น

ด้านนางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวถึงการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนว่า ปีนี้รัฐบาลตั้งเป้าหมายเบิกจ่าย 80% ของงบประมาณทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ตั้งเป้าหมาย 75% แต่เบิกจ่ายจริง 65% เพราะ พ.ร.บ.งบประมาณออกมาล่าช้า สำหรับปีนี้นายกฯเรียกหน่วยงานที่มีวงเงินงบลงทุนจำนวนมากมาสอบถามความคืบหน้าการเบิกจ่าย เช่น คมนาคม เกษตรและสหกรณ์ มหาดไทย เป็นต้น “ขณะนี้ติดตามเป็นรายสัปดาห์ และรายเดือน ภายในวันที่ 28 ก.พ.นี้ การเบิกจ่ายงบลงทุนต้องไม่ต่ำกว่า 29% และจะเร่งรัดมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเงินที่กันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีตั้งแต่ปีงบที่แล้ว ที่จะมาเบิกจ่ายในปีนี้มีวงเงิน 120,000 ล้านบาท ได้ทยอยเบิกจ่ายมาเรื่อยๆภายในปีนี้”.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

ขออภัยในความไม่สะดวก ระบบกำลังตรวจสอบการใช้งาน กรุณาลองใหม่อีกครั้ง

Thairath Money

แบบสำรวจพฤติกรรมการลงทุนของคนรุ่นใหม่

ปัจจุบันคุณมีหนี้อะไรบ้าง

การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)