Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

เอื้อให้ขนเงินกลับประเทศ คลังสั่งทบทวน เก็บภาษีธุรกิจไทยในต่างประเทศ

Date Time: 14 ก.พ. 2568 09:30 น.

Summary

  • "พิชัย" สั่งทบทวนการเก็บภาษี เอื้อให้บริษัทคนไทยที่ไปลงทุนต่างประเทศ นำเงินกลับเข้าไทย เผยมีแนวคิดออก "บอนด์โทเคน" 5 พันล้านบาททดลองตลาด พร้อมเดินหน้าตั้งกองทุน THAI ESG กอง 2 ทดแทนกองทุน LTF ที่หมดอายุ ขณะที่หนุนขยายเวลาขายสุรา

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ “ทิศทางเศรษฐกิจและการเงินไทย 2025” ในงานสัมมนา “Investment Forum 2025 33 years ONEAM : Make Your Portfolio Great Again” ว่า กระทรวงการคลัง กำลังทบทวนการเสียภาษีเงินได้ของนักลงทุน ไทยที่ไปลงทุนต่างประเทศ แล้วต้องการนำเงินกลับเข้าไทย เนื่องจากมีความเหลื่อมล้ำในการเสียภาษี บางประเทศไม่เก็บภาษี บางประเทศเก็บภาษีในอัตราที่ไม่เท่ากัน แม้ไทยเพิ่งประกาศจัดเก็บภาษี เงินได้นิติบุคคลที่ไปลงทุนในต่างประเทศ ตามข้อตกลงขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล แต่มีความไม่เท่าเทียมของการจัดเก็บภาษีเกิดขึ้น มีคนได้เปรียบและเสียเปรียบ จึงต้องทำให้เคลียร์ เชื่อว่ามีบริษัทไทยและคนไทยที่มีเงินอยู่ต่างประเทศ จำนวนมาก ต้องการนำเงินกลับแต่ติดใจเรื่องเสียภาษี ส่วนจะเสียภาษีอัตราเท่าใด จะชัดเจนเร็วๆนี้

นายพิชัยยังกล่าวว่า ขณะนี้มีแนวคิดทดลองออกพันธบัตรสินทรัพย์ดิจิทัลหรือบอนด์โทเคน วงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีอยู่แล้ว เพื่อทดลองตลาด หากได้การตอบรับดี จะขยายเป็น 10,000 ล้านบาท หรือมากกว่านี้ “รัฐต้องกู้เงินอยู่แล้วเพื่อชดเชยขาดดุลหรือรีไฟแนนซ์เงินกู้ที่มีการออกบอนด์โทเคนเป็นอีกทางเลือก แต่ขอทดลองตลาดก่อน รายเล็กสามารถซื้อได้ราคา 1,000 บาท”

ส่วนการตั้งกองทุน THAI ESG เพื่อทดแทนกองทุน LTF ที่หมดอายุและมีเงินค้างในตลาดหุ้น 180,000 ล้านบาท กำลังดูว่าจะเป็นกองใหม่หรือรวมกับกองทุนเดิม ขอให้รอความชัดเจนจากคณะทำงานเร็วๆนี้จะมีคำตอบแน่นอน ลักษณะจะเป็น กองทุน THAI ESG กอง 2 เพื่อให้ผู้ถือ LTF มีเวลาตัดสินใจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน นอกจากนี้จะชักชวนบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ที่ลงทุนในไทยให้เข้าตลาดหุ้นไทยด้วย และคลังยังมีแนวคิดรวม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯและ พ.ร.บ. สินทรัพย์ดิจิทัล ไว้ด้วยกัน เพราะการลงทุนทั้ง 2 ประเภทเป็นเงินก้อนเดียวกันควรทำผ่านกันได้

นายพิชัยยังกล่าวถึงการผ่อนคลายเวลาขายสุราช่วง 14.00-17.00 น.และวันสำคัญทางศาสนาว่า หากเป็นเรื่องที่ได้มากกว่าเสียและไม่มีผลกระทบข้างเคียงก็พร้อมสนับสนุน “เรื่องการดื่มเป็นพฤติกรรมส่วนตัว ที่ต้องบ่มเพาะ ตั้งแต่เยาวชนว่าดื่มมากเกินไปไม่ดีแต่หากดื่มแล้วอยู่ในกฎเกณฑ์ก็ไม่มีปัญหา” ส่วนนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรนั้น ในต่างประเทศ หากควบคุมไม่ดีและไม่ทำให้เป็นไปตามเป้าหมายก็เกิดผลไม่ดี แต่หากกำกับดูแลได้ดี เป็นไปตามวัตถุประสงค์จะช่วยเศรษฐกิจ เรื่องกาสิโนเป็นแค่ส่วนประกอบของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เท่านั้น ปัจจุบันสถานที่แบบนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อน ทานอาหาร ซึ่งเชื่อมโยงการท่องเที่ยวต่อเนื่องด้วย พื้นที่โดยรอบก็ได้ด้วย ส่วนที่มีกระแสคัดค้านเป็นธรรมดาทุกโครงการมีทั้งคนสนับสนุนและค้าน แต่จากผลสำรวจกฎหมายนี้มีคนเห็นด้วยกว่า 80% ส่วนต้องทำประชามติหรือไม่ตนไม่แน่ใจ.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

ขออภัยในความไม่สะดวก ระบบกำลังตรวจสอบการใช้งาน กรุณาลองใหม่อีกครั้ง

Thairath Money

แบบสำรวจพฤติกรรมการลงทุนของคนรุ่นใหม่

หลักสูตรความรู้ทางการเงิน ควรมีการเรียน/ การสอน ช่วงไหน

การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)