Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

กดความเชื่อมั่นผู้บริโภคดิ่ง การเมืองป่วน-ค่าครองชีพสูง-กำลังซื้อหด

Date Time: 12 ก.ค. 2567 06:10 น.

Summary

  • ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยและผู้บริโภคดิ่งต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และ 4 ติดต่อกัน หลังนักธุรกิจ ประชาชน กังวลการเมืองไม่นิ่ง ลุ้นนายกฯได้อยู่ต่อหรือพอแค่นี้! ค่าครองชีพสูง กำลังซื้อหด ภัยแล้งทำผลผลิตเกษตรเสียหาย ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ทำคนกังวลใช้จ่าย กดเศรษฐกิจซึม ลั่นในอีก 1–2 เดือนยังไม่มีสัญญาณฟื้น รอรัฐเร่งเบิกจ่ายเงินดิจิทัล หวังเศรษฐกิจปีนี้โต 3%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษา ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือน มิ.ย.67 ว่า ดัชนีทั้ง 2 รายการอยู่ในช่วงขาลง โดยดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยลดลง 2 เดือนติดต่อกัน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง 4 เดือนติดต่อกัน และต่ำสุดในรอบ 9 เดือน นับตั้งแต่เดือน ต.ค.66 สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวม ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบันต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ก.ย.66 สาเหตุของความเชื่อมั่นลดลงมาจากสาเหตุหลักคือ ค่าครองชีพที่อยู่ระดับสูง ทั้งราคาน้ำมันเชื้อเพลิง อาหาร ค่าไฟ โดยน้ำมันเบนซินขึ้นมาใกล้ลิตรละ 40 บาท อีกทั้งเดือน ส.ค.นี้มีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันดีเซลจะปรับขึ้นอีกลิตรละ 1 บาท ทำให้กำลังซื้อทั่วไปของประชาชนซึมลง เพราะรายได้หาไม่ง่าย เศรษฐกิจฟื้นช้า บรรยากาศค้าขายซึม นอกจากนี้ การเมืองไม่นิ่งหรือไม่มั่นใจเสถียรภาพการเมือง เพราะรอคำวินิจฉัยของศาล

กรณีนายกรัฐมนตรี จะยังอยู่ในตำแหน่งต่อหรือไม่ หากยังอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อ นโยบายจะใช้ได้ต่อเนื่องทั้งเงินดิจิทัล ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนต้องสรรหาใหม่ และไม่รู้ว่าขั้วการเมืองจะเปลี่ยนหรือไม่ อีกทั้งมีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะเอากัญชากลับมาเป็นยาเสพติด ทำให้พรรคภูมิใจไทยอาจไม่โหวตให้ ท่าทีของความขัดแย้งนี้ ไม่รู้ว่าจะนำไปสู่การยุบสภาหรือไม่ ส่งผลให้ดัชนีเหมาะสมด้านการเมืองต่ำสุดรอบ 10 เดือน และประชาชนเริ่มตอบถึงการเมืองแย่ในสัดส่วนที่สูงขึ้น

ขณะเดียวกันยังมีปัญหาภัยแล้งที่ทำให้ผลผลิตเกษตรเสียหาย เงินในมือของเกษตรกรน้อยลง กำลังซื้อในต่างจังหวัดไม่คล่องตัว รวมถึงยังมีปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ที่ทำให้โลกแบ่งขั้วอย่างชัดเจน กระทบต่อการส่งออก และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและไทย โดยปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ทำให้ประชาชนกังวล ไม่กล้าใช้จ่าย และยังไม่เห็นสัญญาณจะฟื้นตัวในช่วง 1-2 เดือนนี้ จึงเป็นทิศทางขาลงของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฉุดให้ดัชนีความเหมาะสมของการซื้อบ้านใหม่ รถยนต์ การท่องเที่ยวลดลงมากถึง 5-6 จุด ถือว่าลงแรงและลึกมาก ส่วนความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ผู้ประกอบการเริ่มกลับมากังวลเรื่องปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท และการเข้าไม่ถึงเงินกู้

“ช่วง 1-2 เดือนนี้ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยเศรษฐกิจไทยยังซึมตัวจากไตรมาส 2 และยังไม่มีแรงส่งให้ฟื้นในไตรมาส 3 มองว่าครึ่งแรกปีนี้น่าจะโตได้ 1.5% แต่ถ้ารัฐเริ่มอัดเงินงบประมาณมากขึ้นและเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนให้ได้ 75% ตามเป้าหมาย น่าจะทำให้เศรษฐกิจไตรมาส 3 โตได้ 2-2.5% ฟื้นตัวแบบอ่อนๆ และจะฟื้นเข้มแข็งขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ย. ถ้าการเมืองไม่พลิกผัน ไตรมาส 4 น่าจะโตได้ 3-4% และทั้งปีนี้ ยังมีโอกาสโต 2.5% แต่ถ้ามีเงินดิจิทัลเข้ามาแม้จะลดวงเงินลง 50,000 ล้านบาท ก็ยังมีโอกาสที่ทั้งปีจะโตได้ 2.8-3%”

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย.67 อยู่ที่ 58.9 ลดจาก 60.5 ในเดือน พ.ค.67, ดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบันอยู่ที่ 42.8 ลดจาก 44.1, ดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตอยู่ที่ 66.7 ลดจาก 68.4, ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 52.6 ลดจาก 54.3, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวมอยู่ที่ 56.1 ลดจาก 57.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 67.9 ลดจาก 69.8 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย อยู่ที่ 54.2 ลดจาก 55.1.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

ขออภัยในความไม่สะดวก ระบบกำลังตรวจสอบการใช้งาน กรุณาลองใหม่อีกครั้ง

Thairath Money

แบบสำรวจพฤติกรรมการลงทุนของคนรุ่นใหม่

รู้หรือไม่ว่า สามารถโยกย้ายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ไปเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ได้

การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)