สังคมไทย กำลังเจอกับโจทย์ท้าทาย เมื่อคนในประเทศไทยมีทัศนคติเชิงบวกต่อการใช้ชีวิตคู่และการมีลูกน้อยลง โดยปี 2566 สำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า 1 ใน 5 ของคนไทย เป็น “คนโสด” สัดส่วนสูงถึง 23.9% ของประชากรทั้งประเทศ แบ่งออกเป็นหลายกลุ่มหลักๆ ได้แก่
อย่างไรก็ดีในแง่ธุรกิจ และโอกาสทางการตลาดนั้น เรียกได้ว่า กลุ่มคนโสด กลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่น่าจับตามอง สอดคล้องข้อมูลของ LWS บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในเครือ บริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งประเมินว่าทั่วโลกมีการใช้ชีวิตแบบ “คนโสด” เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และล้วนเป็นกลุ่มประชากรที่มีกำลังซื้อสูง
เจาะสังคมไทย ณ สิ้นปี 2565 มีจำนวนครัวเรือนที่อยู่เพียงลำพังกว่า 7 ล้านครัวเรือน หรือคิดเป็นสัดส่วน 26% ของครัวเรือนในประเทศไทยทั้งหมด เพิ่มขึ้นกว่า 10% จากปี 2555 โดยประเทศไทยถือเป็น 1 ใน 10 ประเทศ ที่มีค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคของครัวเรือนที่อยู่เพียงลำพังสูงที่สุดในเอเชียแปซิฟิก โดยเป็นการใช้จ่ายในกลุ่มของสินค้าและบริการ คิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี โดยมีรายได้ต่อเดือนอยู่ในช่วง 20,000-40,000 บาท
สำหรับธุรกิจที่ตอบโจทย์ “คนโสด” นั้น มี 5 ธุรกิจบริการมาแรง ดังนี้
1. ธุรกิจการเช่าที่อยู่อาศัย
ปัจจุบันราคาที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเกินกว่าความสามารถในการซื้อ ประกอบกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ และคนโสด ที่มีพฤติกรรมการทำงานอาชีพอิสระมากขึ้น พร้อมที่จะย้ายที่อยู่อาศัยให้ใกล้กับที่ทำงาน และให้ความสำคัญกับการเดินทางและท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้ประชากรในกลุ่มนี้ตัดสินใจที่จะ “เช่า” ที่อยู่อาศัย มากกว่า “ซื้อ” โดยกลุ่มคนเช่าที่อยู่ตัวคนเดียวกว่า 30% มีศักยภาพที่พร้อมจ่ายค่าเช่าตั้งแต่ 6,000-10,000 บาท/เดือน
อย่างไรก็ดีกลุ่มนี้เน้นโครงการที่มีความปลอดภัย, ความสะดวกสบาย, Facility ที่ครบครัน สามารถใช้บริการได้ 24 ชั่วโมง รวมไปถึงบริการเสริมที่สามารถเรียกใช้บริการผ่าน Application เช่น
2. อาคารชุดที่เลี้ยงสัตว์ได้
ผลสำรวจพบ 3 ใน 4 ของคนที่สนใจซื้อคอนโดฯ จะพิจารณา โครงการที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ สอดคล้องกับผลวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) และ The 1 Insight ที่ระบุว่า ปัจจุบันคนไทยสัดส่วนมากกว่า 65% เลี้ยงสัตว์เหมือนลูก หรือสมาชิกในครอบครัว หรือที่เรียกว่า "Pet Parent" เลี้ยงสัตว์เพื่อการบำบัดเยียวยาจิตใจ มีความสามารถรองรับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงได้ 15,000 บาท/ปี และมักเลือกโครงการมีบริการฝากดูแล/พาสัตว์เลี้ยงเดินเล่น, บริการทำความสะอาดห้องชุดที่มีสัตว์เลี้ยง, ใกล้ๆ มีร้านขายอาหารสัตว์และอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง และบริการสปา/อาบน้ำ/แต่งขนสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
3. ร้านอาหารสำหรับทานคนเดียว
จากผลการสำรวจเป็นที่ยืนยันได้ว่า กลุ่มคนที่อาศัยอยู่คนเดียวกว่า 50% ชื่นชอบการทำกิจกรรมนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร หรือกิจกรรมอื่นๆ คนเดียว ถ้าจะกล่าวว่าธุรกิจร้านอาหารสำหรับรับประทานคนเดียวเติบโตอย่างต่อเนื่อง คงไม่แปลกเพราะกำลังเป็นเทรนด์ที่ได้ผลตอบรับตามกระแสนิยมในปัจจุบัน
4. การท่องเที่ยวคนเดียว
Statista ระบุว่า ในปี 2566 60% ของนักท่องเที่ยวมีแผนออกเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มคนโสด ชื่นชอบการเดินทางคนเดียว ท่องเที่ยวมากกว่า 5 ครั้ง/ปี ที่สำคัญตัดสินใจเร็ว กล้าจ่ายแม้ไม่ใช่ช่วงโปรโมชัน และในปัจจุบัน Application เป็นสิ่งที่สนับสนุนการเที่ยวคนเดียวออกมาให้ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เช่น Flush ไว้หาห้องน้ำ, Agoda ไว้จองห้องพัก ฯลฯ
5. บริการเพื่อนรับจ้าง
ปัจจุบันธุรกิจเช่าเพื่อนเริ่มเป็นที่นิยมอย่างมากของกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออนไซต์ โดยเฉพาะในประเทศจีน และญี่ปุ่น จากสถิติที่เก็บโดยเจ้าของธุรกิจ พบว่า กลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการเช่าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง 70% เช่าเพื่อปรึกษา หรือหาคนรับฟังสิ่งที่เขาพูด และอีก 30% เช่าเพื่อขอให้ช่วยงานบางอย่าง หรือไปเที่ยว, กินข้าว ไปจนถึงพาไปโรงพยาบาล หรือฝากดูแลผู้สูงอายุ โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 250-600 บาท/ชั่วโมง
เช่นเดียวกันกับในประเทศไทยมีบริการมาเติมเต็มในกลุ่มผู้สูงอายุอย่าง “บริการลูกรับจ้างหลานจำเป็น” ของบริษัท Joyride ที่คอยดูแล, รับ-ส่งถึงที่หมาย มีค่าบริการเริ่มต้น 500 บาท/ชั่วโมง และหากมองหาบริการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบคนโสด โดยใช้รูปแบบบริการที่มีให้บริการในต่างประเทศมาปรับใช้ได้ไม่ยาก แน่นอนธุรกิจดังกล่าวเป็นบริการทางเลือกที่น่าสนใจ และคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดที่สูง เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนกลุ่มลูกค้าที่สามารถเข้าถึงบริการ.
ที่มา : LWS
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney