แผนปูพรมตลาดต่างจังหวัด เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่ตลอดช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นเกมเร่งที่แข่งขันเข้มข้นและรุนแรงขึ้น อันเนื่องมาจากตลาดที่อยู่อาศัย กทม.-ปริมณฑล ณ ปัจจุบัน อยู่ในภาวะที่ไปไกลกว่าคำว่า “Red Ocean” ไปแล้ว
อีกทั้ง “อัตราดอกเบี้ย” ที่ยังคงตัวในระดับสูง ส่งผลต่อดีมานด์คนกรุงชัดเจน หนี้ครัวเรือนกดความสามารถการซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ และอีกส่วนผวาเศรษฐกิจ ระมัดระวังการใช้จ่าย ชะลอการซื้อบ้าน ทำให้ “ดีมานด์” ลดความร้อนแรงไปด้วย
เจาะตลาดภูมิภาค โดยเฉพาะจังหวัดหัวเมืองเศรษฐกิจสำคัญ และเมืองรองศักยภาพสูงนั้น แม้ผู้ประกอบการจะยอมรับว่ามีปัญหา “รีเจกต์” หรือการถูกธนาคารปฏิเสธสินเชื่อไม่ต่างกัน แต่ยังถือเป็น “Blue Ocean” ที่การแข่งขันต่ำกว่า ถ้าเลือกทำเลที่มีจุดแข็ง ก็เป็นโอกาสในการทำการตลาดได้ไม่ยาก
จับกระแสผู้พัฒนาอสังหาฯ ระดับ Top ที่ลงไปเล่นตลาดอสังหาฯ ภูมิภาค และปั้นแบรนด์ “อภิทาวน์” จนเป็นที่ยอมรับในระดับท้องถิ่น อย่าง บมจ.เอพี ไทยแลนด์ ใช้เวลาเพียง 5 ปี สามารถขยายการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง และมูลค่าโครงการที่อยู่อาศัยกำลังจะทะลุ 1.3 หมื่นล้านบาท ใน 14 จังหวัด เร็วๆ นี้
“วิทการ จันทวิมล” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ.เอพี ไทยแลนด์ เผยถึงทิศทางธุรกิจ และ Roadmap การขยายแบรนด์ “อภิทาวน์” ว่า ในปีนี้ แบรนด์อภิทาวน์ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 กับการขยายการพัฒนาโครงการที่เติบโตอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านบ้านคุณภาพโปรดักต์ที่หลากหลาย ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และบ้านแฝด เข้าไปครองความเชื่อมั่นจากลูกค้าครอบครัวในจังหวัดต่างๆ ด้วย Roadmap การลงทุนพัฒนาโครงการที่ต่อเนื่อง รวมทั้งสิ้น 15 โครงการใหม่และพร้อมอยู่ มูลค่าโครงการกว่า 13,530 ล้านบาท
ขณะโครงการใหม่ในปีนี้ เตรียมเปิดใหม่จำนวน 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3,200 ล้านบาท ได้แก่
ผู้บริหาร บมจ.เอพี เล่าว่า แม้ตลาดอสังหาฯ ภูมิภาคจะไม่ง่าย เพราะต้องแข่งขันกับผู้พัฒนาโครงการระดับท้องถิ่น หรือ Local Brand ที่อยู่มานาน และ เป็นที่ยอมรับของคนในพื้นที่มากกว่า อีกทั้งผู้พัฒนาจากส่วนกลางไปพร้อมกับต้นทุนที่สูงกว่า ทำให้มีจุดต่างเรื่อง “ราคาขาย”
แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าปัจจุบันผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด มีความต้องการที่หลากหลายขึ้น เช่น ต้องการ “พื้นที่ส่วนกลาง” หรือ “ฟังก์ชันบ้าน” ที่ไม่ต่างไปจากบ้านสวยๆ ใน กทม. เช่น ฟิตเนส 24 ชั่วโมง, Co-working Lounge ดีไซน์ทันสมัย, สระว่ายน้ำ, สวนดีไซน์รองรับการใช้งานของสมาชิกทุกช่วงวัย ทำให้แบรนด์ อภิทาวน์ ได้รับการตอบรับที่ดี เป็นอีกกลุ่มผู้บริโภคที่บริษัทเข้าไปเจาะตลาด
สำหรับ 3 กลยุทธ์สำคัญของความสำเร็จแบรนด์ “อภิทาวน์” ได้แก่
1. บุกเจาะพัฒนาโครงการในหัวเมืองใหม่ ที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ดีมานด์ลูกค้าชัดและมีกำลังซื้อที่ต่อเนื่อง
“ต้องเป็นจังหวัดที่มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจจากหลากหลายมิติ และที่สำคัญยังเป็นตลาด Blue Ocean ที่มีซัพพลายโครงการที่อยู่อาศัยไม่หนาแน่น แต่แข็งแกร่งด้วยกำลังซื้อชัด มีดีมานด์ลูกค้าครอบครัวรุ่นใหม่ไลฟ์สไตล์เมืองที่มีกำลังซื้อสูง”
2. เจาะที่ดิน Location in Location เชื่อมต่อได้หลากหลายเส้นทาง ใกล้ศูนย์กลางการทำงาน ใกล้ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้ ใกล้ตลาดชุมชนธุรกิจท้องถิ่น
3. มุ่งเน้นพัฒนาโครงการให้เป็นส่วนหนึ่งของเมือง ด้วยการนำเอกลักษณ์การใช้ชีวิตจริงของลูกค้าแต่ละหัวเมือง ถอดรหัสอินไซต์สู่การดีไซน์แบบบ้านและสเปซฟังก์ชัน เพื่อให้เกิดพื้นที่ชีวิตที่ดีที่สุด ตอบรับความต้องการของลูกค้าในทุกจังหวัด
“อภิทาวน์ ไม่มีโปรดักต์ตายตัว เปลี่ยนไปตามความต้องการของพื้นที่นั้นๆ ที่เห็นโอกาส เช่น ฉะเชิงเทรา ทำเลใกล้นิคมอุตสาหกรรม ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นครอบครัวเล็ก เปลี่ยนจากเช่าอยู่ มาซื้ออยู่ โปรดักต์ที่ตอบโจทย์อาจเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ยังเก็บไว้ลงทุนปล่อยเช่าได้ หรือจังหวัดอุบลราชธานี เมืองเศรษฐกิจขยายตัวดี ผู้ซื้อมักเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ โปรดักต์ที่พิสูจน์แล้วว่าขายดี คือ บ้านเดี่ยว ในระดับราคา 5-6 ล้านบาท เป็นต้น”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา โครงการอภิทาวน์ในจังหวัดต่างๆ มียอดขายเฉลี่ยรวมประมาณ 40-50% โดยเฉพาะ อภิทาวน์ ขอนแก่น และ อภิทาวน์ ระยอง ที่กำลังเตรียมปิดการขายเฟสสุดท้ายภายในปีนี้
ล่าสุด เอพี ยังเปิดแคมเปญใหญ่ “อภิทาวน์ทั่วไทย” ร่วมกับ “เชฟกะปอม” ย้ำภาพผู้นำอสังหาฯ ที่เข้าใจบริบทการใช้ชีวิตที่แตกต่าง สู่ความเชี่ยวชาญในการดีไซน์พื้นที่ชีวิต โดยเน้นการนำเสนอเรื่องราวอาหารรสมือแม่ และการกลับบ้าน ด้วยนิยาม “อภิทาวน์ บ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นของครอบครัว”
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney