ใครเห็นเป็นต้องรู้จัก สำหรับ “Pandora” แบรนด์เครื่องประดับสำหรับผู้หญิง ที่ในปี 2566 ที่ผ่านมา มียอดขายเครื่องประดับกว่า 107 ล้านชิ้น ผลิตจากโรงงานคราฟต์ 3 แห่งในกรุงเทพฯ และลำพูน ประเทศไทย และแต่ละชิ้นทำด้วยมือโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญมากกว่า 13,000 คน
รวมทั้งเมื่อต้นปี 2567 Pandora ยังได้ประกาศว่า จะใช้เฉพาะเงินและทองรีไซเคิลในการผลิตเครื่องประดับเท่านั้น ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 58,000 ตัน
ล่าสุด ก้าวไปอีกขั้นกับการบุก “เวียดนาม” ลงหลักปักฐานสร้างโรงงานผลิตมูลค่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในจังหวัดบิ่ญเซือง (Binh Duong) ซึ่งอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ไปทางเหนือประมาณ 40 กม.
โรงงานแห่งใหม่นี้มีเป้าหมายผลิตเครื่องประดับได้มากถึง 60 ล้านชิ้นต่อปี และจะเปิดดำเนินการในต้นปี 2569 จะสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวของ Pandora และเพิ่มความสามารถในการผลิตของบริษัทประมาณ 50%
อเล็กซานเดอร์ ลาซิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ Pandora กล่าวว่า เราพร้อมที่จะเริ่มต้นก้าวแรกของการผลิตในเวียดนาม ซึ่งโรงงาน Crafting and Supply แห่งใหม่ในเวียดนามจำเป็นเพื่อตอบสนองความต้องการในอนาคตและก้าวให้ทันกับการเติบโต โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะเป็นโรงงานผลิตแห่งที่สี่ของ Pandora และเป็นแห่งแรกนอกประเทศไทย พื้นที่แห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ 7.5 เฮกตาร์ ขนาดเท่ากับสนามฟุตบอล 10 สนาม และอาคารต่างๆ จะมีขนาดมากกว่า 50,000 ตารางเมตร
ทั้งนี้ โรงงานแห่งนี้ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% และจะสร้างขึ้นตามมาตรฐาน LEED Gold ซึ่งเป็นการรับรองอาคารสีเขียวชั้นนำ สิ่งนี้จะส่งผลต่อเป้าหมายความยั่งยืนของ Pandora ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงครึ่งหนึ่งตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานภายในปี 2573 และบรรลุเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2583 โรงงานจะติดตั้งเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัยและจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยดิจิทัล
จาคอป เจนเซน รัฐมนตรีกระทรวงอาหาร การเกษตร และการประมงของเดนมาร์ก กล่าวในพิธีเปิดงานว่า เวียดนามได้กลายเป็นตลาดที่สำคัญมากขึ้นสำหรับนักลงทุนชาวเดนมาร์ก เนื่องจากทั้งสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยของประเทศ และความมุ่งมั่นในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ในนามของรัฐบาลเดนมาร์ก
โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะเป็นเรื่องราวความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของการส่งออกไปทั่วโลกของเดนมาร์ก และศูนย์รวมความร่วมมือของเรากับเวียดนามในการเปลี่ยนแปลงสีเขียวและต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยการมีส่วนร่วมในเทคโนโลยีที่ทันสมัยและแนวทางปฏิบัติด้านการผลิตที่ยั่งยืน เรายินดีที่จะมีส่วนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของเวียดนาม และการพัฒนาแรงงานที่มีทักษะในท้องถิ่น
ขณะเดียวกันโรงงานแห่งนี้จ้างช่างฝีมือมากถึง 7,000 คน และ Pandora วางแผนที่จะเริ่มรับสมัครงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 งานใหม่นี้จะให้การสนับสนุนชุมชนโดยรอบ และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดรูปแบบเศรษฐกิจท้องถิ่น ช่างฝีมือจะต้องผ่านกระบวนการฝึกอบรมอย่างละเอียดที่สถาบันการผลิตของ Pandora เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับบทบาทใหม่และโอกาสในการทำงานในอนาคตภายในบริษัท
จีรเศรษฐ บูรณะสัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารส่วนงานห่วงโซ่อุปทานและกรรมการผู้จัดการ ของ Pandora กล่าวเสริมว่า การขยายฐานผลิตไปยังเวียดนาม ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Pandora ที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน ผมมีความภาคภูมิใจที่ได้เห็นแผนของเราเป็นจริงขึ้นมา ประเพณีงานฝีมืออันยาวนานของเวียดนาม บุคลากรที่มีทักษะ และโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทำให้เวียดนามเหมาะอย่างยิ่งสำหรับโรงงาน Crafting and Supply แห่งใหม่
ทั้งนี้ ในปี 2566 ที่ผ่านมา Pandora มียอดขายเครื่องประดับกว่า 107 ล้านชิ้น ซึ่งผลิตจากโรงงานคราฟต์ 3 แห่งในกรุงเทพฯ และลำพูน ประเทศไทย แต่ละชิ้นทำด้วยมือโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญมากกว่า 13,000 คน เมื่อต้นปีนี้ Pandora ประกาศว่า จะใช้เฉพาะเงินและทองรีไซเคิลในการผลิตเครื่องประดับ ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 58,000 ตันทุกปี
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney