หลังเกิดปรากฏการณ์เฟอร์บี้ ตุ๊กตาบลายธ์ จนมาถึง “ลาบูบู้” เรียกได้ว่ากระแสดีไม่มีแผ่ว ใครโดนน้องตกบ้าง? แน่นอนว่าคงจะมีบ้างแหละที่จะขอสักจุ่มสองจุ่มสำหรับการเก็บสะสม “ลาบูบู้” (Labubu) มอนสเตอร์หูยาว ฟันแหลม ตากลมโต ที่มาพร้อมกับรอยยิ้มสุดเจ้าเล่ห์ ทำให้ใครเห็นเป็นต้องตกหลุมรัก
โดยลาบูบู้ เป็นหนึ่งในจักรวาล The Monsters จากอาณาจักร POP MART ที่ถือกำเนิดโดย คาซิง ลุง (Kasing Lung) ศิลปินชาวฮ่องกง ผู้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทพนิยายยุโรป และนำมาผสมผสานกับเรื่องราวของเอลฟ์ จนกลายเป็นอาร์ตทอยสุดน่ารัก โดยเจ้าลาบูบู้มีผองเพื่อนในจักรวาลมอนสเตอร์เดียวกันอีกหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น Zimomo, Spook, Yaya เป็นต้น และอัปเดตล่าสุดพบว่ามีกว่า 12 คอลเลกชัน อาทิ The Monsters Mischief Diary Series, The Monsters Fruits Series และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 380 บาท โดยทำมาจากวัสดุ PVC
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ฮอตฮิตที่สุดคงจะเป็น รุ่น The Monster Exciting Macaron (ลาบูบู้ มาการอง) ที่ทำวงการอาร์ตทอยแตกตื่นไปตามๆ กัน เพราะด้วยความน่ารัก หน้าน้องอ้วนขึ้น เด่นตรงที่มีพวงกุญแจ และมีขนปุกปุย รวม 7 สีให้เก็บสะสม และยังสามารถแต่งตัวให้น้องได้ด้วย ทำให้ราคาพุ่งสูง จนกลายเป็นแรร์ไอเทมที่ใครต้องการครอบครอง ทั้งนี้ราคาในช็อปอยู่ที่ 550 บาท ต่อ 1 กล่องสุ่ม และ 3,300 บาท ต่อซื้อยกกล่อง (6 ตัว)
ขณะที่ราคาในตลาดล่าสุด เริ่มตั้งเเต่ 1,500 (กล่องสุ่ม) ไปจนถึง 3,500 บาทก็มี ยกกล่อง 6 ตัว ราคาเริ่มที่ 16,000 บาท โดยตัวสีน้ำตาลเข้ม Chestnut Cocoa ถือว่าเป็นตัวแรร์สุดๆ หายากมากๆ ราคาเริ่มที่ 9,000 บาท ส่วนสีอื่นๆ ที่มีการเปิดกล่องแล้ว อาทิ สีครีม Soy milk อยู่ที่ 2,000 บาทเป็นต้นไป
แต่แล้วราคาก็พุ่งสูงขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าเป็นแรร์ไอเทมแห่งปีเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” จากวง Blackpink โพสต์ไอจีสตอรี่ถือกล่อง “ลาบูบู้มาการอง” ก็ทำให้เกิดกระแส Labubu Effect ที่บรรดานักสะสมอาร์ตทอย และแฟนคลับต่างเสาะหาเจ้าฟันแหลมมาไว้ครอบครอง ทำให้ในไทย Sold out เกลี้ยงช็อป ไม่พอแค่นั้นยังลามไปถึงที่ประเทศอื่นๆ ด้วยเช่นกันที่นักหิ้วต่างพากัน รับหิ้ว ทำราคา เพื่อเกาะกระแสดังกล่าวกันเพียบ ทำให้ที่หาซื้อยากอยู่แล้วก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก จนทำให้มีของก๊อปออกมาเกลื่อนตลาด แต่กระนั้นนอกจากจะมีฟิกเกอร์ แล้วนั้นยังมีเคสมือถือลายลาบูบู้, แก้วน้ำ และอีกมากมายออกมาจำหน่ายอีกด้วย
ส่วนรายได้ของ POP MART ครึ่งแรกของปี 2566 อยู่ที่ 2.81 พันล้านหยวน หรือ ราวๆ 1.4 หมื่นล้านบาทนั่นเอง
คงต้องรอดูกันต่อไปว่าจากกระแส “ลูกรัก” ตั้งแต่เฟอร์บี้ ที่ห่างหายไปหลายปีกับตุ๊กตาขนฟูพูดได้ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลก แถมราคายังเคยขึ้นสูงจนกลายเป็นของสะสมราคาแพงไปแล้วนั้น มาจนถึงกระแสความนิยมชมสาวน้อยตาโตอย่าง ตุ๊กตาบลายธ์ (Blythe) ที่ในหมู่ของคนไทยถือว่าไม่ใช่เล่นๆ ราคาหลักพันไปจนถึงหลักแสนบาท ต่อยอดมาถึง “ลาบูบู้” ปิศาจฟันแหลมนี้ คงต้องรอดูกันว่าราคาจะขึ้นไปสูงสุดเท่าไร และ Kasing Lung จะมีคอลไหนออกมาตกบรรดาแฟนคลับอีกบ้าง? ก็คงต้องจับตาดูต่อไป.
อ้างอิง : POP MART