นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เผยว่า หลังทรูและดีแทคควบรวมกิจการครบ 1 ปี การปรับโครงสร้างองค์กรคืบหน้ามาก สิ้นปีนี้น่าจะสำเร็จได้ 85% ช่วยลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อนไปสู่การทำกำไรสุทธิได้ปี 68 ทั้งนี้ ปี 66 ทรูมีรายได้และกำไรก่อนหักดอกเบี้ย, ภาษี, ค่าเสื่อมและค่าจัดจำหน่าย (Ebitda) โตติดต่อกัน 4 ไตรมาส และมีเป้ารักษาการเติบโตต่อไปให้ได้ 8 ไตรมาส มีฐานลูกค้า 51.9 ล้านราย เป็นลูกค้า 5G 10.5 ล้านราย
“กรณีคลื่นความถี่ 850 MHz, 2300 MHz ซึ่งทรูเช่าใช้จาก บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ใบอนุญาตจะหมดอายุ ก.ย.ปี 68 นั้น เรื่องนี้สำคัญ เพราะคลื่นความถี่ที่ทรูให้บริการจะหายไป จึงขอให้บอร์ด กสทช.รีบออกแผนบริหารจัดการคลื่นความถี่โดยเร็ว เพราะเงื่อนไขและราคาประมูลคลื่นสำคัญต่อการตัดสินใจว่าจะเข้าประมูลหรือไม่ ด้านนายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี กล่าวถึงกรณีสภาพัฒน์เผยรายงานภาวะสังคมระบุมีข้อร้องเรียนราคามือถือแพงขึ้น แต่คุณภาพสัญญาณลดลงหลังควบรวม โดยยืนยันว่าการควบรวมทำให้การบริหารจัดการเครือข่ายมีคุณภาพมากขึ้น ส่งผลให้สัญญานดีขึ้นแน่นอน ส่วนค่าบริการปัจจุบัน ลูกค้ามีพฤติกรรมใช้งานมากขึ้น สามารถเปลี่ยนแพ็กเกจให้ราคาเหมาะสมกับการใช้งานได้”.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่