นาทีนี้หากพูดถึงร้านสุกี้ ชาบู บุฟเฟต์ “อร่อยไม่อั้นเที่ยงวันยันเช้า” ที่อยู่ในโลเคชันสแตนด์อโลน เดินทางมาได้ง่าย มีที่นั่งกินขว้างขวาง มีเก้าอี้รอคิวจำนวนมาก ก็คงหนีไม่พ้น ‘สุกี้ตี๋น้อย’ (Suki Teenoi) ร้านสุกี้มหาชน คิวแน่นร้าน จนคนต้องรอต่อแถวยาวเหยียด เพราะด้วยวัตถุดิบที่มีจำนวนมาก อีกทั้งน้ำดื่มรีฟิล และราคาก็เข้าถึงได้ง่าย เริ่มต้นเพียง 219 บาท ทำให้สุกี้ตี๋น้อยกลายเป็นร้านโปรดของใครหลายๆ คนไปโดยปริยาย
โดย ‘สุกี้ตี๋น้อย’ (Suki Teenoi) อยู่ภายใต้การบริหารของ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) ต่อมาได้กลายเป็นที่หมายตาของ บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART) จนกระทั่งสามารถปิดดีลใหญ่การเข้าลงทุนและลงนามสัญญาผู้ถือหุ้นได้แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ในจำนวน 352,941 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 1,200 ล้านบาท
ปัจจุบัน สุกี้ตี๋น้อย มีสาขารวมทั้งหมด 55 สาขา (ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566) ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมา Suki Teenoi ได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้น จำนวน 13 สาขา
โดยสาขาที่เปิดเพิ่มมีส่วนหนึ่งที่ได้เริ่มขยายออกไปต่างจังหวัด เช่น ชลบุรี สุพรรณบุรี และนครราชสีมา เป็นต้น เป็นทำเลที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการค่อนข้างหนาแน่น ด้วยแนวคิดของการให้บริการที่เข้าถึงความต้องการของลูกค้าที่อยากทานสุกี้ ชาบู ที่มีราคาคุ้มค่าต่อการบริโภค จึงทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างดี
ปี 2562 รายได้ 499 ล้าน กำไร 15 ล้าน
ปี 2563 รายได้ 1,223 ล้าน กำไร 140 ล้าน
ปี 2564 รายได้ 1,572 ล้าน กำไร 148 ล้าน
ปี 2565 รายได้ 3,976 ล้าน กำไร 591 ล้าน
ปี 2566 กำไร 913 ล้าน เพิ่มขึ้น 54%
ทั้งนี้ ในปี 2566 ที่ผ่านมา ‘สุกี้ตี๋น้อย’ หรือ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด มีกำไรสุทธิกว่า 913 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 54% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 591 ล้านบาท (โดยเป็นส่วนแบ่งกำไรให้ JMART 274 ล้านบาท จากการถือหุ้น 30%)
ซึ่งจากผลประกอบการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า “สุกี้ตี๋น้อย” มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งยังไม่เคยขาดทุนเลยแม้แต่ปีเดียวนับตั้งแต่เปิดกิจการมา ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่เนื้อหอมไม่น้อยเลยทีเดียว
และด้วยวิชชันของผู้บริหารอย่าง “เฟิร์น-นัทธมน พิศาลกิจวนิช” ที่มองว่า “ไม่มีทางลัดในความสบาย” และไม่มีคำว่า “ง่าย” ในพจนานุกรมของการทำธุรกิจ ทำให้การขับเคลื่อนของ ‘สุกี้ตี๋น้อย’ มีความน่าสนใจอยู่เสมอ เริ่มจากความตั้งใจที่อยากจะมีพอร์ตธุรกิจร้านอาหารหลากหลายประเภทที่ไม่ใช่แค่สุกี้
นั่นก็ทำให้สุกี้ตี๋น้อยเดินเกมมาได้อย่างดี ขยายสาขาสุกี้ตี๋น้อยไปต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น ต่อมาคือการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ร้าน “ข้าวแกง ตี๋น้อยปันสุข” ที่ราคาเริ่มต้นเพียง 39 บาท และล่าสุดก็ได้เปิดตัว แบรนด์ใหม่ “Teenoi Express” สุกี้พรีเมียม ราคาเดียว 439 บาท ที่มาในรูปแบบสายพาน และมีไฮไลต์คือ เนื้อวัวนำเข้า
รวมทั้งแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งลงตลาดไปหมาดๆ กับ “ตี๋น้อย ป๊อปอัพ คาเฟ่” Teenoi Pop Up Cafe ขนเมนูเด็ดเอาใจสายหวานมาเสิร์ฟเพียบ เริ่มแค่ 35 บาท
ทำให้เห็นว่าพอร์ตของ “สุกี้ตี๋น้อย” มีอะไรใหม่ๆ ออกมาสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ นอกจากผลประกอบการแล้วนั้น ยังมีแบรนด์ที่หลากหลาย ที่ส่งออกมาซัพพอร์ตสายกินอย่างไม่ขาดสายด้วยเช่นกัน
ติดตามข้อมูลหุ้นกู้ และ เงินฝากธนาคาร กับ ThairathMoney ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing