เตือนแล้วนะ! คนอร์ ดึง เชฟป้อม นั่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ จับมือร้านอร่อย หวังดึงดูดนักชิมเพิ่ม

เครื่องปรุงรส อย่าง “คนอร์” หรือที่หลายคนมักเรียกว่า “ผงนัว” เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ทุกบ้านต้องมีติดครัวไว้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นแบบก้อน แบบผง รสหมู รสไก่ ล้วนแต่ได้รับความนิยมชมชอบกันมานานนับสิบปี 

สุรีรัตน์ ลีลาศิริวณิชย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชันส์ หรือ UFS  เปิดเผยว่า หลักๆ บริษัทมี 2 แบรนด์คือ 1.คนอร์ 2.เบสท์ฟู้ด ส่วนกลุ่มลูกค้าหลัก แบ่งเป็นกลุ่มร้านอาหาร 30% กลุ่มร้านอาหารตามสั่ง 25% กลุ่มโรงแรม 10% กลุ่มร้านเบเกอรี่ 20% และอื่นๆอาทิ ผับ บาร์ โรงอาหาร อยู่ที่ 15%  โดยที่ยอดขายส่วนใหญ่จะมาจากการขายตรงผ่านทีม sale  ส่วนอีกครึ่งคือร้านค้าปลีก ค้าส่ง 

ปัจจุบัน UFS มีร้านเครือข่ายอยู่ในระบบประมาณ 5,000 ร้าน แต่ถ้าหากนับร้านเล็กๆ คาดว่ามีประมาณ 100,000 ร้าน

เมนูผัดๆ ยังคงเป็นจานโปรดของ "ผู้ชิม" 

ทั้งนี้จากการคาดการณ์ทิศทางธุรกิจร้านอาหารในปี 2567 พบว่ายังมีทิศทาง เติบโตต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยว มีร้านอาหารเปิดใหม่มากกว่า 7.5 แสนร้าน (ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านน้ำ สตรีทฟู้ด) มีอัตราการเติบโตสูงจากปีที่ผ่านมา 10% โดยร้านอาหารไทยมาแรง เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก ทั้ง ส้มตำ ข้าวมันไก่ ซึ่งมากกว่า 95% เป็นร้านอาหารครัวไทย ที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 410 ล้านบาท โดยเมนูอันดับหนึ่งที่ครองใจคนไทย คือ ข้าวผัดกะเพราหมูสับ ที่มียอดออเดอร์พุ่งสูงต่อเนื่องเป็นปีที่สอง อีกทั้งเมนูจานผัดทั้งหมดอย่าง ข้าวผัด หมูกระเทียม รองลงมาคือตำ ยำ ต่างๆ ที่มีกระแสบูมอย่างมาก

ตลาดร้านอาหารยังโตแรงราว 5.8%

สอดคล้องกับข้อมูลจาก Krungthai COMPASS ที่ประเมินว่า ตลาดร้านอาหารในประเทศไทยปี 2567 จะเติบโตราว 5.8% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดีการขยายตัวของมูลค่าธุรกิจร้านอาหารยังไม่ทั่วถึง และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังเผชิญโจทย์ท้าทาย อาทิ การแข่งขันที่รุนแรงทุกเซกเมนต์ การตัดราคา พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปมีทางเลือกหลากหลาย รวมถึงภาวะต้นทุนในการดำเนินธุรกิจที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งค่าแรง ค่าวัตถุดิบ ค่าสาธารณูปโภค และต้นทุนทางการเงินที่ปรับตัวสูง ความยากในการบริหารจัดการครัวให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้บางรายไม่สามารถประคับประคองธุรกิจจนต้องปิดกิจการลงมากกว่า 50% ของการเปิดร้านตั้งแต่ปีแรก

จึงเป็นเหตุให้เนื้อหาที่ผู้ประกอบการร้านอาหารให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็น  1.สูตรอาหาร และแรงบันดาลใจใหม่ๆ ตามเทรนด์ที่เกิดขึ้น 2.การจัดการต้นทุน และเพิ่มผลกำไร ให้เติบโตอย่างยั่งยืน 

เพิ่มการ “เข้าถึง” ให้มากขึ้นผ่านแบรนด์แอมบาสเดอร์-ผลิตภัณฑ์ใหม่

และด้วยข้อมูลข้างต้นจึงทำให้ “คนอร์” เปิดตัว แคมเปญ ‘คนอร์ อร่อยติดร้าน ทุกจานติดดาว’ ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมดึงเชฟป้อม - หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล นักโภชนาการและเชฟชื่อดังระดับแถวหน้าของไทย เจ้าของวลีเด็ด เตือนแล้วนะ, แล้วมันจะทันไหม ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของแคมเปญที่จะเป็นผู้ไปตระเวนชิมเฟ้นหา สุดยอดร้านอาหารกว่า 2,000 ร้าน ทั่วประเทศ  เพื่อรับสัญลักษณ์แห่งความอร่อยที่ผู้บริโภคมั่นใจ 

รวมทั้งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่ออาหารไทยโดยเฉพาะ ทั้งผงปรุงครบรส รสหมูและรสไก่, ผงรสมะนาว ที่ทำจากมะนาวแป้นแท้, ซอสมะขามเปียกเข้มข้น มะขามเปียกแท้ๆ ไม่ต้องเสียเวลาคั้น รวมทั้ง สามเกลอพร้อมใช้ กระเทียม พริกไทย รากผักชี ไม่ต้องเสียแรงโขลก พร้อมพาสเจอไรซ์ เรียบร้อย 

สุรีรัตน์ กล่าวว่า 3 ปีที่ผ่านมาเราทำแคมเปญเพื่อเพิ่มการรับรู้ต่อแบรนด์ ของกลุ่มผู้ประกอบการมากขึ้น ที่ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ แต่เป็นโซลูชัน โดยเรตราคาอยู่ประมาณ 80-90 บาท ถ้าเทียบกับคู่แข่งจะถูกกว่า 10% 

แต่ทั้งนี้ก็ยังมีเพนพอยต์หลักๆ นั่นคือ ความเชื่อเดิมที่ว่า “ของสดดีที่สุด” ดังนั้นเราจึงต้องการที่จะทลายสิ่งเหล่านั้นด้วยแนวคิดที่ว่า “ทดแทนได้” และยังคง ประหยัดต้นทุน ประหยัดเวลา แต่ยังคงมีรสชาติอร่อยเหมือนเดิม โดยเป็นอินไซต์ที่อยากจะให้กลุ่มร้านอาหารรู้จัก “ผลิตภัณฑ์” ของคนอร์ มากขึ้น   และเมื่อนั้นจะนำมาซึ่งยอดขายในพอร์ตที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง