เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 67 นางชลลักษณ์ มหาสุวีระชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด หรือ NocNoc กล่าวว่า ภาพรวมตลาดสินค้าเกี่ยวกับบ้านใน 67 นี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 3% จากมูลค่าตลาดรวม 450,000 ล้านบาท เมื่อปี 65 ที่ผานมา
ทั้งนี้ ช่องทางการขายออนไลน์ยังมีสัดส่วนเพียง 5% เมื่อเทียบกับสัดส่วนสินค้าเกี่ยวกับอาหาร และสินค้าอุปโภค บริโภค ที่มีสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 15-18% โดย NocNoc พร้อมวางเป้าหมายในใจว่าในปี 2567 นี้ NocNoc จะมียอดขายเติบโตขึ้น 40% หรือคิดเป็น 6,500 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตที่สูงกว่าภาพรวมตลาดมาร์เก็ตเพลส และช่องทางค้าปลีกดั้งเดิม
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ NocNoc ในปี 2566 ที่ผ่านมา ยังคงสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งด้วยการมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 100% โดยปัจจัยหลักมาจากการเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มต่างๆ ได้กว้าง และลึกมากขึ้น รวมทั้งการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและพาณิชย์ โดยเฉพาะออนไลน์
อย่างไรก็ตามเป้าหมายของ NocNoc ไม่ใช่การดำเนินธุรกิจเพื่อทำกำไรในระยะสั้น หรือเอาชนะใคร แต่ NocNoc ต้องการดูแล และสนับสนุนทั้ง Ecosystem ตั้งแต่ลูกค้า ผู้ขาย ช่าง ผู้ออกแบบ ผู้จัดส่ง รวมถึงพันธมิตรในอุตสาหกรรมทั้งหมด
โดยมีปัจจัยหลักที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ NocNoc เติบโต และดูแล Ecosystem ได้ตามเป้าหมาย คือ คน ซึ่งชาว NocNoc มีความฝันเดียวกันที่อยากให้ NocNoc เติบโตเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคนใน Ecosystem เราดูแลคนด้วยความเชื่อใจ (Trust) โดยเชื่อว่า การใช้ศักยภาพที่เขามีจะช่วยให้ NocNoc ได้รับความเชื่อใจจากทุกคนใน Ecosystem เช่นกัน
ขณะเดียวกันเราเชื่อว่าเทคโนโลยีจะสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าใน Home and Living Sector ซึ่ง NocNoc ได้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างมีประสิทธิผลมาแล้ว และจะลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำอย่างต่อเนื่อง ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และผู้ขาย ทั้งในด้านประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม และการใช้ AI เข้ามาช่วย
นายอนุพงศ์ ทะสดวก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าและพาณิชย์ บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด หรือ NocNoc กล่าวว่า กลยุทธ์หลักของ NocNoc ในปี 2567 จะมุ่งสู่การทำการตลาดแบบ Personalized Experience หรือการสร้างประสบการณ์ที่ดีแบบเฉพาะตัว ซึ่งยังคงยึดลูกค้าเป็นหลักในการทำธุรกิจ โดยกลุ่มลูกค้าหลักของ NocNoc เป็นกลุ่มที่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก มีอายุระหว่าง 25-45 ปี
ในขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้าตามหัวเมืองใหญ่ของไทยก็มีศักยภาพเช่นเดียวกัน เห็นได้จากการเติบโตของภาคธุรกิจที่ขยายตัวไปยังหัวเมืองต่างๆ ในทุกปี ทำให้เกิดดีมานด์เพิ่มขึ้น แนวทางในปี 2567 นี้ NocNoc พยายามที่จะสร้างความโดดเด่น และน่าสนใจให้กับสินค้าเรื่องบ้านที่มีอยู่ผ่าน Inspiration and Idea โดยเฉพาะในเรื่องของการนำสินค้าเรื่องบ้านมาจัดแสดงในรูปแบบต่างๆ (Roomscene InspiREALtion) เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพว่าหากซื้อสินค้าเหล่านี้แล้วจะถูกจัดวางในบ้านของตัวเองอย่างไร
เพราะ NocNoc อยากให้การซื้อสินค้าแต่ละครั้งของลูกค้ามาจากความต้องการอย่างแท้จริง หรือมองเห็นแล้วว่าไอเดียการจัดวางบ้านแบบไหนที่ตัวเองชอบ หรือเหมาะกับการตกแต่งบ้านของตัวเองมากที่สุด รวมถึงการเดินหน้าขยายช่องทางให้ลูกค้าได้เข้าถึงสินค้า และบริการเรื่องบ้านได้หลากหลายมากขึ้น จากออนไลน์สู่ออฟไลน์ (Omni Channel) ผ่านงาน NocNoc Fair และ Pop-up Store เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการสัมผัสสินค้าจริง ทั้งยังได้ไอเดียของการตกแต่งบ้านจากงานดังกล่าวทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำการเป็น Home and Living Destination ที่ช่วยให้ทุกเรื่องของการอยู่อาศัย กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกๆ คน และตอบโจทย์ทุกสเตจพื้นที่การใช้ชีวิตของลูกค้า ตั้งแต่การหาไอเดีย ซื้อบ้านใหม่ ตกแต่งบ้าน รวมถึงรีโนเวทบ้านแบบครบจบที่เรา Home Solution จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ไฮไลต์ที่ถูกผลักดันเพื่อเสริมแกร่งมากยิ่งขึ้นในปี 2567 นี้ ที่ผ่านมา NocNoc มีสินค้า และบริการที่เกี่ยวกับบ้านที่หลากหลายอยู่แล้ว
แต่ปีนี้จะมีการเพิ่มบริการที่ปรึกษาสำหรับคนรักบ้าน ด้วยเหตุที่ว่าอาจจะมีลูกค้าบางกลุ่มยังไม่รู้ว่าต้องหาสินค้าแต่งบ้านให้เหมาะกับบ้านได้อย่างไร หรืออยากได้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ ช่วยเลือกสินค้า และบริการให้เหมาะสมกับความต้องการ ซึ่ง Home Solution จะเข้ามาช่วยเติมเต็มในส่วนนี้ และไม่ใช่เพียงแค่แนะนำสินค้าเรื่องบ้านเท่านั้น แต่ยังนำเสนอไอเดีย ดีไซน์ในการออกแบบบ้าน พร้อมบริการงานช่าง และการันตีทุกงานบริการให้ลูกค้าแบบ One Stop Service อีกด้วย
พร้อมขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ตลาด B2B
ทั้งนี้ การขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ B2B หรือ Business-to-business เพื่อตอบรับความต้องการของผู้ประกอบการทุกกลุ่มธุรกิจทั้งรายย่อยและรายใหญ่ให้ได้สินค้า และบริการตกแต่งธุรกิจตามความต้องการในสไตล์ที่ใช่ แบบ One Stop Service และการผนึกกำลังกับพันธมิตรทางการค้า
ทำให้ในปี 2567 NocNoc จะสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจ Online to offline ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผ่าน NocNoc for Business ทั้งให้ความรู้ และช่วยนำเสนอสินค้าและบริการที่เหมาะสมกับธุรกิจ (Business Solution) ทั้งการออกแบบ การเลือกสินค้า และบริการให้เหมาะกับการเปิดร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม และออฟฟิศ ต่างๆ
รวมทั้งการดึงผู้ขายที่เป็นพาร์ทเนอร์เข้าร่วมทำโปรโมชันพิเศษในกิจกรรมต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นผลดีแก่ผู้ขาย และกลุ่มลูกค้าทั่วไปทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งมีแผนที่จะไปทั้งหมด 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต โคราช ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา และระยอง
ขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่าช่วงหลังการระบาดโควิดสิ้นสุด ผู้บริโภคไม่ได้ใช้ชีวิตแค่เพียงที่พักอาศัย หรือบ้านของตัวเองอีกต่อไป แต่ยังไปทำกิจกรรมอื่นนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการไปออกกำลังกาย เข้าร้านกาแฟ หรือแม้แต่เดินทางท่องเที่ยว ทำให้หมวดสินค้าที่เกี่ยวเนื่องเหล่านี้เติบโต NocNoc จึงขยายสินค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์ เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ตลาดในแต่ละช่วงมากขึ้น
แม้ว่าปัจจุบันจะมีสินค้ามากกว่า 600,000 รายการ พันธมิตรร้านค้าอีกกว่า 6,000 รายแล้ว แต่ก็มองว่ายังมีสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการรีโนเวท หรือปรับปรุงที่พักอาศัย รวมถึงกลุ่มอื่นๆ อาทิ สินค้าสำหรับแม่และเด็ก ที่ได้เริ่มเข้ามาเติมเต็มแล้ว และกลุ่มสัตว์เลี้ยงที่เป็นเทรนด์เติบโตมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ส่วนการเติมเต็มสินค้าอื่นๆ เข้ามาเพิ่มจะช่วยเพิ่มการซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มได้ เดิมทีลูกค้าอาจจะตั้งใจมาซื้อแค่เฟอร์นิเจอร์ แต่พอเห็นสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ด้วย ก็จะซื้อสินค้าในหมวดอื่นๆ ช่วยให้มีประสบการณ์การซื้อสินค้าที่ดีขึ้น ครบทุกความต้องการเรื่องบ้าน และการใช้ชีวิต
"โจทย์ของ NocNoc คือการทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ เพราะการตกแต่งบ้านสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามอารมณ์ และความต้องการ ซึ่งการมีสินค้า และบริการที่ครบจบในที่เดียว จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเข้ามาซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มของ NocNoc ซ้ำอย่างต่อเนื่องอีกด้วย".