บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยและผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล 39 สาขาทั่วประเทศ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกรุงเทพมหานคร ประกาศความยิ่งใหญ่ในงาน ‘Central World Bangkok Countdown 2024’ ณ เซ็นทรัลเวิลด์ Times Square of Asia หนึ่งเดียวใจกลางเมือง ทุ่มงบ 500 ล้านบาท สร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ ชู 7 ไฮไลต์ World’s Entertainment Countdown อันดับหนึ่งตลอดกาล
พร้อมเซอร์ไพรส์ ศิลปินระดับโลกที่ทุกคนรอคอย ‘YOUNGJAE GOT7’ และ “แพทริค 尹浩宇 (อ่านว่า หยิ่นฮ่าวอวี่) ณัฐวรรธ์ ฟิงค์เลอร์” Asian rising star ที่เติบโตและโด่งดังในระดับ ท็อปลิสต์บอยแบนด์จีน กับโชว์แรกบนเวทีเคาต์ดาวน์ฟินาเล่ส่งท้ายปี เสริมทัพด้วย 5 Headliner ศิลปินไทยที่ครีเอทโชว์พิเศษเฉพาะที่เซ็นทรัลเวิลด์ ตอบโจทย์ทุกเจนฯ รวมศิลปินทั่วประเทศมากกว่า 200 ชีวิต สร้างปรากฏการณ์ความมันส์ฉลองศักราชใหม่ ณ เคาต์ดาวน์แลนด์มาร์กทั่วประเทศพร้อมกัน
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ‘Central World Bangkok Countdown 2024’ งานเคาต์ดาวน์ที่เซ็นทรัลเวิลด์จะ สนุก มันส์ที่สุด เหมือนทุกคนกำลังยืนฉลองอยู่ในมิวสิกเฟสติวัลระดับโลก โดยเราใส่เรื่อง Art & Music เข้าไป ซึ่งมันคือองค์ประกอบของ Music festival เป็นเทรนด์ทั่วโลก รวมทั้งเรื่อง Sustainability ที่เราผสานพลุดิจิทัลและพลุจริงสุดอลังการ พร้อมส่ง Message to the World ข้อความสร้างแรงบันดาลใจผ่านจอยักษ์ Panoramix ให้ทั่วโลกตระหนักถึง Global issue พร้อมกันในวินาทีเคาต์ดาวน์” พร้อมผลักดัน ‘Festival’ ซึ่งเป็น 1 ใน 5F ของ Soft power ไทยสู่สายตาคนทั่วโลก ขณะที่กลุ่มลูกค้าแบ่งเป็นคนไทย 70-75% และกลุ่มลูกค้าต่างชาติ 20-25%
รองรับคนกว่า 250,000 คน มันส์ ‘Non-stop Entertainment Phenomenon’ โปรดักชั่นระดับโลก เข้าฟรี! ตั้งแต่ 16.30-00.30 น.
พร้อมจัด Thailand Countdown 2024 เคาต์ดาวน์แลนด์มาร์กที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 13 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ ภูเก็ต, สมุย, หาดใหญ่, เชียงใหม่, พิษณุโลก, อยุธยา, ขอนแก่น, โคราช, พัทยา, มารีนา, จันทบุรี, ชลบุรี และเวสต์เกต คาดจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยวเมืองหลัก-รอง สร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 300 ล้านบาท
ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่าโรงแรมในย่านราชประสงค์มีการจองเต็ม 100% ซึ่งเร็วกว่าปีที่ผ่านมา โดยเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย. ซึ่งจะยาวไปจนถึง ธ.ค. โดยลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่จะเป็น จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมถึงอินเดีย UAE ก็ค่อนข้างเติบโต และญี่ปุ่นก็เริ่มกระเตื้องขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยว Weekend travel เริ่มกลับมาสดใสดังเดิม
ขณะเดียวกันยังพบว่าในช่วงเคาต์ดาวน์ 11 วัน (22 ธ.ค.66-1 ม.ค. 67) จำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยอยู่ที่ 3.75 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10% ส่วนรายได้หมุนเวียน 1.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติพบว่าเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.18 ล้านคน คิดเป็น 56% คิดเป็นรายได้หมุนเวียน 4.17 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เฉพาะพื้นที่ราชประสงค์มีจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 100,000 คน ทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ส่วนปลายปีชาติไหนเข้ามาในไทยบ้างนั้น อาทิ จีน อินเดีย UAE ยุโรป ซึ่งยุโรปส่วนใหญ่พำนักในประเทศไทย 10 วันขึ้นไป ส่วนเชื้อชาติเอเชียพำนักอยู่ประมาณ 3-7 วัน โดยหมุดหมายที่ไปเคาต์ดาวน์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเมืองหลักทั้ง กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา ฯลฯ ส่วนทั้งปี 2566 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยกว่า 27 ล้านคน
“ด้านความปลอดภัยได้มีการประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการเตรียมความพร้อมและจัดกำลังร่วมดูแลกว่า 2,000 ราย”