เซ็นทรัล รีเทล รุกหนักชนเครือซี.พี.

สมรภูมิค้าส่งเริ่มเปิดศึกครั้งใหญ่ขึ้นแล้ว หลังจากยักษ์ใหญ่กลุ่มเซ็นทรัล รีเทลส่งโมเดลธุรกิจพร้อมแบรนด์ใหม่ GO Wholesale (โก โฮลเซลล์) ท้าชนเจ้าตลาดเดิม Makro (แม็คโคร) ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) เปิดตัวให้บริการแล้วที่สาขาศรีนครินทร์ เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา

ทางแม็คโครได้มีการเคลื่อนไหวด้วยการปรับโฉมใหม่ที่สาขาศรีนครินทร์ ดีเดย์เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในวันเดียวกัน พร้อมกับตอกย้ำการเป็นผู้นำในธุรกิจค้าส่งตัวจริงมายาวนานถึง 34 ปี ขนาบข้างด้วยแม็คโคร สาขาสมุทรปราการ โมเดลธุรกิจใหม่ ค้าปลีกแบบไฮบริดที่ผสานจุดแข็งของแม็คโคร แหล่งรวมสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาค้าส่ง กับโลตัส มอลล์ ศูนย์กลางการใช้ชีวิตของชุมชน รวมเข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งโลตัสสาขาศรีนครินทร์ได้ปรับโฉมใหม่ในส่วนของซุปเปอร์มาร์เกต

เรียกว่าเครือซี.พี.ได้จัดเต็มแบบ 3 รุม 1 เพื่อต้อนรับน้องใหม่และใช้ทำเลศรีนครินทร์เป็นสมรภูมิเดือด ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาบนถนนเส้นนี้เราได้เห็นสีสัน บรรยากาศและความคึกคักของกิจกรรมที่สองยักษ์ใหญ่ได้สร้างสรรค์กันขึ้นมา

เหตุผลทำไมต้องเป็นถนนศรีนครินทร์ทำเลแห่งแรกที่ถูกปักหมุดปะทะกัน เป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่สำคัญเพราะเป็นสาขาลำดับที่สองของแม็คโครต่อจากสาขาแรกที่ลาดพร้าว เปิดมาให้บริการตั้งแต่ปี 2533 นับเป็นที่คุ้นเคยของผู้ประกอบการเจ้าของธุรกิจที่เป็นลูกค้าของแม็คโครในย่านนั้นเป็นอย่างดี

การทำธุรกิจก็เหมือนกับการออกศึก หาก “หัวหมู่ทะลวงฟัน” ที่กลุ่มเซ็นทรัลได้เฟ้นเลือกสุดยอดฝีมือเพื่อแจ้งเกิดในทำเลยุทธศาสตร์ให้ได้เพื่อขวัญกำลังใจที่รุกสยายปีกออกไปในทำเลอื่นๆต่อไป ซึ่งเหล่าสุดยอดฝีมือนี้ก็ไม่ใช่คนไกลที่ไหน เป็นอดีตทีมผู้บริหารของแม็คโครที่แห่ยกทัพมา นำโดย “สุชาดา อิทธิจารุกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แม็คโคร

“สุชาดา” เข้าร่วมทำงานกับแม็คโครมายาวนานเกือบ 30 ปี จากการรับผิดชอบดูแลทางด้านการเงินจนก้าวมาเป็นกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งมีประสบการณ์ในโมเดลธุรกิจค้าส่งอย่างโชกโชน ตั้งแต่ในยุคที่เครือซี.พี.ร่วมทุนกับบริษัทเอาฮาเฟ โฮลดิ้งส์  เจ้าของแม็คโครจากประเทศเนเธอร์แลนด์ มาเปิดธุรกิจค้าส่งในรูปแบบ Cash&Carry ที่รับเฉพาะสมาชิกแบบชำระเงินสดและบริการตนเอง โดยมีกลุ่มผู้ประกอบ การขนาดเล็ก ร้านโชห่วย ร้านอาหาร โรงแรม ธุรกิจจัดเลี้ยง เป็นลูกค้าเป้าหมาย

เมื่อเครือซี.พี.ได้รับผลกระทบจากวิกฤติต้มยำกุ้ง เครือซี.พี.ได้ ตัดสินใจขายหุ้นออกไปเพื่อนำไปรักษาธุรกิจหลักไว้ แต่ในที่สุดมีโอกาสกลับมาซื้อคืน “สุชาดา” ล้วนแต่อยู่ในเหตุการณ์สำคัญของการเปลี่ยนแปลงมาตลอด จนในที่สุดได้ลาออกมาประมาณหนึ่งปีเศษ แม้จะเข้าสู่วัย 71 ปี แต่ไม่ได้เกษียณอายุ แต่ด้วยเหตุผลเปิดทางให้ผู้บริหารคนใหม่แทน

การเข้ามานับหนึ่งเริ่มต้นใหม่กับ GO Wholesale นั้น “สุชาดา” และทีมงาน สามารถดำเนินการได้เร็วเพียงปีเศษก็สามารถเปิดสโตร์สาขาแรกได้ อีกทั้งยังรู้จุดอ่อนจุดแข็งของแม็คโครทะลุปรุโปร่ง ได้ออกแบบโมเดลธุรกิจให้ GO Wholesale  รับบัตรเครดิตทุกประเภท รวมไปถึงอาลีเพลย์ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาของศูนย์การค้า แต่ไม่ธรรมดาเพราะลูกค้าองค์กรธุรกิจสามารถใช้บัตรเครดิตมาเป็นเครื่องมือการบริหารแหล่งทุนเพิ่มเติมจากการใช้เงินสดได้

โมเดลของธุรกิจค้าส่งก็คือ การจัดหาสินค้าจากแหล่งซัพพลายในปริมาณจำนวนมากๆจากโรงงาน ตัวแทนจำหน่าย ผู้นำเข้า เพื่อจำหน่ายต่อให้ลูกค้าซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจต่างๆ ดังนั้น ราคาจำหน่ายต้องถูก กำไรต่ำ จึงต้องขายสินค้าในจำนวนมากๆ หากรับชำระบัตรเครดิตโดยหักเปอร์เซ็นต์แล้วไม่คุ้มกับการทำธุรกิจ จึงเป็นที่มาของธุรกิจ Cash&Carry นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาแม็คโครพยายามแก้จุดอ่อนตรงนี้แต่ขณะนี้รับชำระบัตรเครดิตเพียงแค่บัตร Citi Bank Makro และบัตร UOB เท่านั้น ส่วนบัตรเครดิตอื่นๆ ถูกจำกัดชำระได้เฉพาะแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้น

ขณะเดียวกัน GO Wholesale ได้เน้นการเป็นแหล่งรวมวัตถุดิบอาหารขนาดใหญ่ เป็น King of Food ครบครันด้วยสินค้าอาหารสด อาหารแห้ง อุปโภคบริโภคจากทุกมุมโลก การจัดแบ่งโซนสโตร์ชัดเจนแบบเดินสบายๆไม่แออัด พร้อมกับรอยัลตี้โปรแกรมจากแพลตฟอร์ม The1 ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ปได้ด้วย

GO Wholesale มีขีดความสามารถขยายได้ทันทีจังหวัดละ 1 สาขา โดยเป้าหมายระยะ 5 ปีจะขยายไป 50 สาขาทั่วประเทศ จากความพร้อมของกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล ที่มีความพร้อมทั้งด้านเงินทุนและที่ดินที่เตรียมขยายสาขาออกไปอาจจะไปเปิดสแตนด์อะโลนแบบเดี่ยวๆ หรือล้อไปตามโมเดลธุรกิจอื่น เช่น ไทวัสดุที่กำลังเร่งขยายสาขาอย่างหนักเช่นกัน

สำหรับแม็คโครเจ้าตลาดเองก็ได้ปรับตัวรองรับการแข่งขันและรู้ดีว่า จะต้องทำอย่างไร การเปิดโมเดลในธุรกิจค้าส่งใหม่ๆขึ้นมาชูการเป็นผู้นำตัวจริง การปรับโฉมสโตร์ใหม่ดูทันสมัย เป็นแหล่งรวมอาหารสดจากทั่วทุก มุมโลก ตอบรับความต้องการของผู้ประกอบการและลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมกับรอยัลตี้โปรแกรม Makro Pro Point สะสมคะแนนเพื่อใช้เป็นส่วนลด

กลุ่มเซ็นทรัล รีเทล ดูเหมือนจะมีความมั่นใจสูงมากที่เติมเต็มให้ธุรกิจทั้งค้าปลีก-ค้าส่งให้ครบวงจร แต่งานนี้ใช่จะง่าย เพราะเครือซี.พี. อยากจะเจาะง่ายๆ หากจะดูโมเดลร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ทางกลุ่มเซ็นทรัลเข็นร้านแฟมิลี่ไปสู้ไม่ไหวต้องล่าถอยมาแล้ว หรือแม้กระทั่งโมเดลอย่าง “ท็อปส์คลับ” บริการเฉพาะสมาชิกจำหน่ายสินค้าในรูปแบบโกดังสินค้าพรีเมียมราคาสูง ซึ่งยังไม่เหมาะกับผู้บริโภคคนไทยในยุคนี้เปิดให้บริการเพียงปีเดียวปิดสาขาไปเรียบร้อยแล้ว

ธุรกิจค้าปลีกไทยในปีนี้ศูนย์ วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคาร ไทยพาณิชย์ คาดว่าจะมีมูลค่า 3.7 ล้านล้านบาท เมื่อมองรายได้รวมของเครือซี.พี.สองบริษัทคือซี.พี. ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่นปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 8.5 แสนล้านบาท ส่วนซี.พี.แอ็กซ์ตร้า ผู้บริหารโลตัสและแม็คโคร มีรายได้รวม 4.7 แสนล้านบาท เมื่อรวมแล้วมีรายได้สูงถึง 1.32 ล้านล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งในธุรกิจค้าปลีกสูงถึงเกือบ 36%

ส่วนกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล ผู้บริหารห้างเซ็นทรัล, โรบินสัน, ท็อปส์, เพาเวอร์บายและไทวัสดุ เป็นต้น มีรายได้รวมที่ 2.36 แสนล้าน หรือมีส่วนแบ่งเกือบ 7% ตัวเลขเหล่านี้คร่าวๆ เปรียบเทียบให้เห็นภาพเท่านั้น

จึงไม่แปลกที่กลุ่มเซ็นทรัลรีเทลจะทุ่มทุนขยายธุรกิจอย่างหนักต่อเนื่องดังที่เห็นกัน.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่