นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือเคทีซี เปิดเผยว่า ธุรกิจของเคทีซี มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีทีมงานที่ดี ผู้บริหารล้วนมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เข้าใจวัฒนธรรมขององค์กร ที่สำคัญมีดีเอ็นเอของความเป็นเคทีซีอยู่เต็มเปี่ยม และพร้อมเดินหน้าทำกำไรนิวไฮต่อเนื่องจากเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ โดยในอีก 4-5 ปีข้างหน้า เคทีซีจะมีกำไรปีละ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป้าหมายนี้จะยังเดินหน้าต่อไป (ในปี 2565 เคทีซีมีกำไรสุทธิ 7,079.40 ล้านบาท)
ทั้งนี้ ในปี 2567 เคทีซีจะมีประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) คนใหม่ คือ นางพิทยา วรปัญญาสกุล ที่ปัจจุบันเป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส และร่วมงานกับเคทีซีมายาวนานถึง 26 ปี และจะเริ่มบทบาท CEO ใหม่วันที่ 1 ม.ค.2567 นี้ รวมทั้งทีมผู้บริหารระดับสูงในสายงานต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นคนที่ร่วมงานกับเคทีซีมายาวนาน และมั่นใจว่าทีมบริหารชุดใหม่นี้จะสามารถส่งต่อและสานต่อหน้าที่และภารกิจสำคัญของเคทีซีให้สำเร็จได้อย่างราบรื่น “ผมเชื่อว่าคุณพิทยาเป็นผู้นำที่ดีและเหมาะสมที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่ง CEO คนใหม่ ส่วนตัวผมก็จะไปดำรงตำแหน่งกรรมการเคทีซี”
พร้อมสานต่อวิสัยทัศน์-ความสำเร็จ
นางพิทยา วรปัญญาสกุล กล่าวถึงทิศทางธุรกิจเคทีซีในปี 2567 และก้าวต่อไปของเคทีซีว่า “เราพร้อมจะสานต่อวิสัยทัศน์และความสำเร็จ ที่ผ่านมา เพื่อส่งต่อเรื่องราวดีๆให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม โดยจะทำธุรกิจให้มีผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และสานต่อวัฒนธรรมองค์กรที่ดีของเคทีซี ซึ่งจะเป็นข้อได้เปรียบในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่านิยมองค์กรที่คนเคทีซียึดถือเป็นแนวทางในการทำงาน ได้แก่ 1.กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง 2.ทำให้ง่าย ไม่ซับซ้อน และ 3.ทำสิ่งที่มีความหมายและเป็นประโยชน์ รวมทั้งปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรแห่งความไว้วางใจ เพื่อส่งต่อความเชื่อมั่นจากภายในเคทีซีไปสู่สมาชิก องค์กร ผู้ถือหุ้นและสังคม
“12 ปี ที่คุณระเฑียรเข้ามาบริหารเคทีซีได้วางพื้นฐานไว้ดีมาก และการทำงานได้ลงลึกจริง ก่อนหน้านี้ได้เข้ามาเรียนรู้งานกับคุณระเฑียรระยะหนึ่งแล้ว ส่วนเป้าหมายในการทำกำไรเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ก็ยังทำต่อไป กำไรปีละ 10,000 ล้านบาทก็ยังเหมือนเดิม แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะถึงเป้าหมายในปีไหน”
ทั้งนี้ การนำพาธุรกิจเคทีซีต่อจากนี้จะตั้งอยู่บน 3 องค์ประกอบคือ คน-กระบวนการ-เทคโนโลยี เริ่มจากคน ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญที่เราดูแลและให้ความสำคัญมาตลอด ในปีหน้าจะมุ่งพัฒนาและส่งเสริมความเป็นผู้นำของผู้บริหารรุ่นใหม่ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาผู้บริหารระดับกลาง โดยเน้นการสร้างความเป็นผู้นำเพื่อจะร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ สำหรับกระบวนการจะให้ความสำคัญกับการออกแบบและปรับกระบวนการทำงานให้กระชับรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
ตั้งเป้าหมายปี 67 เคทีซีเติบโต 10%
นางพิทยากล่าวอีกว่า เศรษฐกิจปี 2567 จะค่อยๆฟื้นตัว ประเดิมว่าธุรกิจของเคทีซีจะเติบโตได้ 10% จากปี 2566 โดยเคทีซียังมองเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อทั้ง 3 ธุรกิจ คือธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” เพราะเชื่อว่ายังมีผู้บริโภคที่ต้องการสินเชื่ออยู่อีกมาก โดยเคทีซีจะเน้นขยายฐานสมาชิกไปยังผู้ที่มีความต้องการสินเชื่อเป็นหลัก และไม่ชักจูงให้สมาชิกมีภาระหนี้ที่เกินความจำเป็น ส่วนธุรกิจ MAAI by KTC (มาย บายเคทีซี) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ให้บริการระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า และแพลตฟอร์มรอยัลตี้แบบครบวงจรแก่ผู้ประกอบธุรกิจ เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่เรามุ่งจะสร้างการเติบโตในปีหน้า
สำหรับแผนกลยุทธ์ในการทำธุรกิจต่างๆในปี 2567 จะประกอบไปด้วย ธุรกิจบัตรเครดิตเคทีซี ตั้งเป้ามีสมาชิกบัตรใหม่เพิ่มขึ้น 230,000 ใบ มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร เติบโต 15% จากปี 2566 และเป็นปีที่เราให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยสำหรับสมาชิกในทุกขั้นตอนของการใช้บริการบัตรเครดิตเคทีซี ด้วยการพัฒนาแอปฯ “KTC Mobile” ต่อเนื่อง เพื่อให้สมาชิกทำธุรกรรมต่างๆเองได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย รวมทั้งต่อยอดผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต “เคทีซี ดิจิทัล” ให้ตอบโจทย์การใช้งานออนไลน์มากขึ้น
“การทำตลาดบัตรเครดิต เคทีซียังคงเน้นทำการตลาดในกลุ่มผู้มีรายได้ต่อเดือน 50,000 บาทขึ้นไป ปัจจุบันมีอยู่ 17-18% ของผู้ถือบัตร ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ทำให้การใช้จ่ายโดยรวมของเราเติบโตได้ดี”
ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลยังเป็นธุรกิจที่เราเน้นการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับการบริหารพอร์ตสินเชื่อคุณภาพ โดยในปี 2567 ตั้งเป้าเติบโต 5% สมาชิกบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” เพิ่มขึ้น 100,000 ราย เน้นกลุ่มที่มีรายได้ 15,000-30,000 บาทต่อเดือน ด้วยแผนกลยุทธ์หลัก 2 เรื่อง คือ 1.สรรหาสมาชิกใหม่ที่มีคุณภาพ เน้นการรับสมัครผ่านช่องทางสินเชื่อออนไลน์ และรู้ผลอนุมัติแบบเรียลไทม์ พร้อมรับเงินโอนเข้าบัญชีทันที 2.สร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้บัตรกดเงินสดให้กับสมาชิก ”เคทีซี พราว“ กว่า 700,000 ราย ไม่ว่าจะเป็นการ “รูด โอน กด ผ่อน” โดยจะเพิ่มฟังก์ชันการเบิกถอนและใช้วงเงินผ่านแอปฯ “KTC Mobile” ให้รองรับการโอนเงินไปยังบัญชีพร้อมเพย์
ขณะที่ธุรกิจสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ตั้งเป้ายอดอนุมัติสินเชื่อใหม่ปี 2567 ที่ 6,000 ล้านบาท ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.เน้นสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2.ผนึกกำลังกับธนาคารกรุงไทยในการขยายฐานลูกค้า ผ่านสาขาธนาคารกว่า 900 แห่ง เป็นหลัก เสริมด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์ของธนาคาร อย่าง NEXT ถุงเงินและเป๋าตัง 3.ตอกย้ำและเสริมความแกร่งให้กับจุดแข็งผลิตภัณฑ์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ในฐานะผู้บริการรายเดียวที่ให้วงเงินใหญ่สูงสุด 1 ล้านบาท อนุมัติสินเชื่อภายใน 1 ชั่วโมง
ในส่วนของ MAAI by KTC ในปี 2567 มีแผนจะขยายจำนวนพันธมิตรธุรกิจขนาดกลางและใหญ่อีกไม่ต่ำกว่า 20 ราย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มจำนวนสมาชิก MAAI ประมาณ 2 ล้านราย โดยจะพัฒนาเชิงกลยุทธ์ใน 3 เรื่องหลัก คือ 1. ต่อยอดการพัฒนาแพลตฟอร์ม ฟีเจอร์หรือฟังก์ชันใหม่ๆ ตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ 2.เพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับประสบการณ์การใช้งานแอปฯ MAAI by KTC ให้ง่าย สะดวกและดียิ่งขึ้น 3.ขยายร้านค้ารับแลกคะแนน MAAI ให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์และความต้องการของสมาชิก MAAI by KTC.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่