คาร์มาร์ท (KARMART) ธุรกิจสินค้าความงามสัญชาติไทย ผู้นำเข้า ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ความงาม อาหารเสริม ที่หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยอย่าง CATHY DOLL, Baby Bright ฯลฯ
โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากแบรนด์ไดสตาร์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ต่อมาเมื่อธุรกิจซบเซา ตลาดไม่ตอบโจทย์ คู่แข่งมากหน้าหลายตา จึงเป็นเหตุให้ต้องปรับโฉมธุรกิจครั้งใหญ่ พลิกยอดขาดทุนหลักร้อยล้านบาท จนมาลงเอยที่ธุรกิจรักสวยรักงามรายได้หลักพันล้าน
ทั้งนี้หากจะแบ่งธุรกิจเครื่องสำอางคาร์มาร์ท สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ กลุ่มแบรนด์ที่คาร์มาร์ทเป็นตัวแทนจำหน่าย กับกลุ่มแบรนด์ที่คาร์มาร์ทเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าโดยเป็นการจ้างผลิต หรือ OEM
ในครั้งนี้ “คาร์มาร์ท” ก็ได้เปิดกลยุทธ์ใหม่ ผ่านการจับมือกับพันธมิตรใหม่ กลุ่มมารุเบนิ จากญี่ปุ่น และกลุ่มควอดริก้า ดันแผนธุรกิจ 3 ปี สู่เป้าหมายทำรายได้รวม 4,000 ล้าน พร้อมเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนตลาดต่างประเทศเป็น 15% หนุนสร้างโอกาสทางการตลาด เพิ่มแบรนด์สินค้าเติมพอร์ต ซื้อกิจการ และรับจ้างผลิตสินค้า โดยคาดว่าภายในปี 2566 จะมีรายได้โตแบบออร์แกนิกที่ 2,400 ล้าน
วงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล กรรมการบริษัท กรรมการบริหารและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KARMART เปิดเผยว่า ตามแผนการดำเนินธุรกิจในระยะ 3 ปีนับจากนี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีรายได้รวม 4,000 ล้านบาท โดยรายได้หลักจะมาจากตลาดในประเทศสัดส่วน 85% ขณะเดียวกันยังวางแผนสร้างรายได้ จากการขยายตลาดในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ด้วยการเพิ่มสัดส่วนรายได้ขึ้นเป็น 15% จากปัจจุบันมีสัดส่วน 11%
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการส่งออกสินค้าไปทำตลาดในต่างประเทศมานานกว่า 10 ปีแล้ว ผ่านพันธมิตร คู่ค้า และตัวแทนจำหน่ายในประเทศต่างๆ ซึ่งทำตลาดหลักใน 19 ประเทศ ได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ เมียนมา เวียดนาม สปป.ลาว กัมพูชา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อาทิ อิรัก คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงประเทศในต่างๆ เอเชีย อาทิ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และบังกลาเทศ
ล่าสุด บริษัทฯ ได้พันธมิตรทางธุรกิจ รายใหญ่มาร่วมทุน เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง และศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้กับบริษัทฯ ได้แก่ Wellsiam Company Limited บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในประเทศไทยถือหุ้น 100% โดยบริษัท มารุเบนิ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Marubeni Corporation) จากประเทศญี่ปุ่น และ QPE Fund 1 Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งใหม่ในเขตดูแลพิเศษฮ่องกง ถือหุ้น 100% โดยบริษัท ควอดริก้า ไพรเวต เอควิตี้ จำกัด
“การได้พันธมิตรใหม่เข้ามาร่วมทุนในครั้งนี้ จะส่งผลให้บริษัทฯ มีโอกาสในการขยายธุรกิจด้วยการเข้าซื้อกิจการ การร่วมทุน หรือการ M&A รวมถึงการจับมือกับเจ้าของแบรนด์สินค้ากลุ่มเครื่องสำอางและความงามที่มีศักยภาพ ในการทำธุรกิจรวมกัน เช่น การซื้อกิจการทั้งหมด หรือบางส่วน การพัฒนาแบรนด์ร่วมกัน ในกลุ่มสินค้าที่บริษัทฯ ยังไม่มี นอกจากนี้ อาจเป็นการร่วมมือกันในด้านการผลิตสินค้า การรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) เนื่องจากบริษัทฯ มีศักยภาพ สามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายชนิด
สำหรับแผนธุรกิจและแนวทางการทำงาน ระหว่างบริษัทฯ และพันธมิตร คาดว่าจะเห็นชัดเจนได้ในปีหน้า ส่วนในปีนี้การเติบโตของบริษัทฯ จะเป็นการเติบโตแบบออร์แกนิก ที่จะขยายตลาดออนไลน์และออฟไลน์ เพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ ขยายสาขาร้าน KARMART ในรูปแบบ Flagship Store และทำตลาดต่างประเทศ
ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ 2,400 ล้านบาท มาจากตลาดต่างประเทศ 270-280 ล้านบาท เติบโตประมาณ 20-25% แบบออร์แกนิกจากปีที่ผ่านมา
เมื่อโควิดก็หยุดความสวยไม่ได้ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า “ธุรกิจเครื่องสำอาง” ก็เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นสำคัญที่ยังคงโลดแล่นในตลาดสินค้าที่จำเป็นได้อย่างดี ดังนั้น “คาร์มาร์ท” แบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติไทย ก็มีแววที่จะไปได้ “สวย” เพราะท่ามกลางตลาดอันหอมหวานนี้ มีเพียงผู้เล่นไม่กี่รายที่ยังคงเติบโตได้ และพลิกโฉมแบรนด์ให้สอดรับกับพฤติกรรม “หญิงไทย” ที่มีความ “สวยและดูดี” เป็นดีกรีในการเลือกช็อป