ข้อมูล จาก Property DNA บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เผยว่า ขณะนี้ตลาดที่อยู่อาศัยเมืองไทย คึกคักไปด้วย บ้านหรู ที่มีราคาขายเริ่มต้นระดับ 100 ล้านบาท ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด
ซึ่งแม้ที่ผ่านมา บ้านหลังละ 100 ล้านบาท จะเกิดขึ้นมานานแล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านี้ แทรกอยู่ในโครงการราคาแพง ไม่เพียงกี่หลังเท่านั้น หรืออาจมีบางโครงการ ที่ทุกหลังมีราคาขายมากกว่า 100 ล้านบาท แต่ก็มีจำนวนโครงการลักษณะดังกล่าวน้อยมาก
จุดเปลี่ยนที่น่าสนใจเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2564 เป็นต้นมา เพราะมีหลายโครงการเปิดใหม่ ที่เปิดราคาขายเริ่มต้น 100 ล้านบาท ทุกหลัง เรื่อยไปจนถึงราคาต่อหลังมากกว่า 500 ล้านบาท ก็มีออกมาให้เห็นเช่นกัน
ขณะเฉพาะปี 2565 มีมากกว่า 160 หลัง ซึ่งแสดงให้เห็นถึง “กำลังซื้อ” ของคนมีเงินในสังคมไทยที่เติบโตขึ้นอย่างน่าสนใจ และถ้าย้อนไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไทยมีโครงการบ้านจัดสรร ที่มีการเปิดราคาขายมากกว่า 100 ล้านบาท นับแล้วหลายโครงการ รวมถึงปรากกฏการณ์ใหม่สะท้อนวงการอสังหาฯ ที่น่าจับตามองในปีนี้ และนี่คือ 10 อันดับ โครงการบ้านหรู ที่เริ่มต้นด้วยราคาขายแพงที่สุดในไทย ณ ขณะนี้
10 อันดับ โครงการ “บ้านหรู” แพงที่สุดในไทย
อันดับ 1 ลาซัวว์ เดอ เอส
อันดับ 2 สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนส์
อันดับ 3 อาลียาห์ รีเซิร์ฟ
อันดับ 4 ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะฟอเรสเทียส
อันดับ 5 มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า
อันดับ 6 อาเทลิเย่ร์ เรสซิเด้นซ์
อันดับ 7 กรานาด้า ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม
อันดับ 8 อิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม 9
อันดับ 9 เดอะ คอลเลคชั่น ริเวอร์ฟรอนท์ บาย อัลติจูด
อันดับ 10 95EI
อันดับ 10(ร่วม) 10&Only
“สุรเชษฐ กองชีพ” กรรมการผู้จัดการ Property DNA ยังเผยว่า ทำเลของบ้านในระดับราคานี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ กทม.รอบนอก และปริมณฑล มีบางโครงการเท่านั้นที่อยู่ในพื้นที่เมืองชั้นใน เพราะบ้านระดับราคานี้ส่วนใหญ่มีขนาดของที่ดินแต่ละแปลงที่ค่อนข้างใหญ่ หรือเริ่มต้นที่มากกว่า 170 ตารางวาขึ้นไปถึงประมาณ 400 ตารางวา หรือ 1 ไร่
ดังนั้น ผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการในระดับราคานี้จึงเลือกที่จะหาซื้อที่ดินในพื้นที่รอบนอก หรืออยู่ถัดจากเมืองชั้นใน แต่หากไม่ไกลจากแนวเส้นทางรถไฟฟ้า โครงการก็จะมีขนาดที่ดินที่เล็กลงมา แล้วเพิ่มจำนวนความสูงของบ้านแทน เพื่อให้ได้พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่
โดยที่บ้านราคามากกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป เป็นบ้านเดี่ยว 3 – 4 ชั้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม รวมไปถึงระบบที่เกี่ยวข้องกับการรักษาอุณหภูมิ ป้องกันมลพิษ และเพื่อสุขอนามัยที่ดีเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ซื้อในกลุ่มนี้ที่ต้องการอะไรที่มากกว่าบ้านขนาดใหญ่เท่านั้น
“กลุ่มผู้ซื้อบ้านในระดับราคานี้ยังคงเป็นคนไทยที่ต้องการบ้านราคาแพงที่มีขนาดใหญ่ หรือบ้านที่อยู่ในสังคมของคนมีเงินระดับเดียวกัน ผู้ซื้อบางคนเคยอยู่บ้านในโครงการจัดสรรทั่วไปมาแล้ว แต่ต้องการบ้านในโครงการราคาแพง เพื่อลดความแออัด อีกทั้งไม่ต้องการบ้านในโครงการที่มีจำนวนยูนิตมาก ทำให้บางโครงการมีน้อยกว่า 10 ยูนิต แต่สิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่าโครงการขนาดใหญ่
ที่น่าสนใจ คือ บางโครงการปิดการขายในเวลาไม่นานทั้งๆ ที่เพิ่งเปิดขาย หรือมียอดจองเข้ามาตั้งแต่วันแรก โดยตลาดนี้ ผู้ประกอบการจะพยายามรักษาฐานลูกค้ากลุ่มนี้ให้อยู่กับพวกเขายาวนานที่สุดอีกด้วย”