จบงาน THAIFEX 2023 เงินสะพัดกว่า 120,000 ล้าน ต่างชาติเข้าชมเพิ่ม 150%

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การจัดงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งภายใต้ความร่วมมืออย่างเข้มแข็งของ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ เยอรมนี

โดยมีผู้เข้าร่วมงาน 3,034 บริษัท บริษัทไทย 1,109 บริษัท และบริษัทต่างประเทศ 1,925 บริษัท รวมเป็น 5,859 คูหาจาก 45 ประเทศ ประกอบด้วย เอเชียตะวันออก อาเซียน สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง เป็นต้น

สำหรับการจัดงาน 5 วัน มีผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 131,039 คน เพิ่มขึ้น 58% เป็นผู้เข้าร่วมเจรจาการค้า 78,764 ราย เพิ่มขึ้น 53% เป็นชาวต่างประเทศ 16,429 ราย เพิ่มขึ้น 150% เป็นจีน เพิ่มขึ้น 2022% มาเลเซีย เพิ่มขึ้น 127% เวียดนาม เพิ่มขึ้น 79% เกาหลี เพิ่มขึ้น 109% สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 58% และนักธุรกิจชาวไทย 62,335 ราย เพิ่มขึ้น 39% และประชาชนทั่วไปเข้าชมงาน เฉพาะวันสุดท้าย มากถึง 52,275 คน เพิ่มขึ้น 66%

มูลค่าการซื้อขายจากการจัดงานรวม 120,002.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.36% เป็นการซื้อขายทันที 1,402.06 ล้านบาท โดยซื้อขายภายใน 1 ปี 118,600.03 ล้านบาท หมวดสินค้าบริการที่ซื้อขายมากที่สุด 5 ลำดับแรก ประกอบด้วย

1. อาหาร (Fine Food)
2. ผักและผลไม้
3. เทคโนโลยีด้านอาหาร เช่น เครื่องจักรอุปกรณ์การทำอาหาร
4. หมวดชากาแฟ และการให้บริการด้านอาหาร เช่น การให้บริการองค์ความรู้
5. ทำธุรกิจอาหาร

สำหรับงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 ในปีนี้ จะมีส่วนสำคัญให้ตัวเลขการส่งออกอาหารของไทยในปี 2566 มีมูลค่าถึง 1.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน ซึ่งมีมูลค่า 1.36 ล้านล้านบาท และประเทศที่มีการสั่งซื้อมากที่สุด ประกอบด้วย จีน ไทย สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และญี่ปุ่น

นายปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า แคบป๊อป หรือ KAPP-POP เป็นสินค้าที่พัฒนาภายใต้แนวคิด Local Food Innovation การนำวัตถุดิบท้องถิ่น เมนูเด่นของ 77 จังหวัดทั่วไทย บวกกับเทคโนโลยี การเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารของไทยสู่ตลาดโลก ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ของเมนูท้องถิ่น เพิ่มคุณภาพอาหาร รักษาความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการไว้อย่างครบถ้วน

ล่าสุด KAPP-POP แคบหมูไมโครเวฟ ได้รับรางวัล THAIFEX - Anuga Taste Innovation ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นความสำเร็จในการพัฒนาสินค้านวัตกรรมของเราด้วย ซึ่งแคบป๊อป เกิดจากกลยุทธ์ Local Co-Creation ระหว่างฟู้ดแฟคเตอร์ กับวนัสนันท์ ร้านของฝากชื่อดังจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้นำเทคโนโลยี มายกระดับเมนูอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงใหม่อย่างแคบหมู มาตอบโจทย์ความอร่อยได้ง่ายๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงนำเข้าเตาไมโครเวฟ 2 นาทีเท่านั้น ก็สามารถรับประทานได้ หอม กรอบ ใหม่ ไร้น้ำมัน โปรตีนสูง ไม่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันต่ำ รสชาติดั้งเดิมตามแบบฉบับเมนูท้องถิ่น

นายกมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า งาน THAIFEX ไม่ใช่เพียงแค่การเป็นสินค้าระดับโลก และแบรนด์ระดับโลกเท่านั้น แต่บริษัทฯ ยังนำนวัตกรรมการผลิตสุราอย่างครบวงจรที่อยู่ภายใต้การจัดจำหน่ายของบริษัทในเครือมาจัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย

โดยในโซนดังกล่าว ผู้ร่วมงานจะได้เห็นถึงนวัตกรรมการผลิตของโรงงานสุราระดับโลก ตั้งอยู่ ณ จังหวัดชัยนาท ซึ่งถือเป็นโรงงานสุราเดียวที่มีขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดของอาเซียน ครอบคลุมการผลิตสุราทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสุราขาว สุราสี ทั้งวิสกี้ บรั่นดี และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ด้วย

นายทวี ปิยะพัฒนา ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปครบวงจร กล่าวว่า ความสำเร็จในการจัดงาน THAIFEX เรามุ่งเดินหน้าขยายตลาดใหม่ในกลุ่มประเทศ แอฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลาง เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ PFP มีความโดดเด่นในเรื่องความหลากหลาย สามารถสร้างสรรค์เมนูเป็นอาหารท้องถิ่นในแต่ละประเทศได้อย่างกลมกลืนด้วยรสชาติและคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์ ตอบโจทย์ในทุกธุรกิจอาหาร

ล่าสุด เราจับมือร่วมเป็นพันธมิตรกับ LuLu Hypermarket ซุปเปอร์มาร์เก็ตค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง เป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจซึ่งเปรียบเสมือนทูตนำพาสินค้าเอเชียสู่ตะวันออกกลางด้วยวัฒนธรรมอาหาร ที่มี 200 กว่าสาขาใน 13 ประเทศทั่วโลก ในเบื้องต้น PFP ส่งสินค้าไปจำหน่าย ที่อาบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในกลุ่มสินค้าขนาด 500 กรัม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เต้าหู้ปลา, เต้าหู้ชีส, ทอดมันปลา, ปูอัดโชกุน, ฟิชริง

รวมถึงแบรนด์ PFP Gold ในกลุ่มสินค้าขนาด 200 กรัม เช่น Squid Nugget และ Shrimp Nugget เป็นต้น โดยถือเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อเปิดโลกให้สินค้าไทยเข้าไปสู่โลกตะวันออกกลาง เชื่อมโลกทั้ง 2 ใบให้เป็นหนึ่งเดียว โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มมูลค่ายอดขายในกลุ่มประเทศ GCC โตขึ้น 10% ภายในปี 66 นี้