วิทยุการบินเผยเที่ยวบินจากจีนเข้าไทยทะลัก ตั้งแต่ ต.ค.65-เม.ย.66 เข้ามาแล้ว 12,805 เที่ยวบิน เมื่อคาดการณ์ไปถึง ก.ย.66 จะมีเที่ยวบินจีนเข้าไทยรวม 46,175 เที่ยวบิน ช่วยฟื้นธุรกิจการบิน แต่ยังน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ถึง 66% ด้านเจ้าหนี้การบินไทยเห็นชอบควบรวม “ไทยสมายล์” ระหว่างนี้ยังซื้อตั๋วได้ตามปกติ
นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ของอุตสาหกรรมการบินได้กลับมาเติบโต โดยพบว่า ตั้งแต่เดือนต.ค.65-เม.ย.66 มีเที่ยวบินระหว่างประเทศ ไทย-จีน รวม 12,805 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 65-98% ซึ่งการที่จีนมีนโยบายเปิดประเทศตั้งแต่ช่วงต้นปี 66 ทำให้สายการบินจากประเทศจีนมีความต้องการเปิดทำการบินและเพิ่มความถี่ในการบินมากขึ้น โดยเดือน ม.ค.ที่ผ่านมามีเที่ยวบินจีน 1,063 เที่ยวบิน เดือน ก.พ. 1,749 เที่ยวบิน เดือน มี.ค.3,082 เที่ยวบิน และเดือนเม.ย. 4,240 เที่ยวบิน
พร้อมกันนี้ มีการคาดการณ์ว่าเดือน พ.ค.นี้ จะมีเที่ยวบินจีน 5,330 เที่ยวบิน เดือน มิ.ย. 6,090 เที่ยวบิน เดือน ก.ค. 7,150 เที่ยวบิน เดือน ส.ค. 7,460 เที่ยวบิน และเดือน ก.ย.7,340 เที่ยวบิน ส่งผลให้ตั้งแต่เดือน ต.ค.65 ถึงเดือน ก.ย.66 มีเที่ยวบินจีนเข้าไทยรวม 46,175 เที่ยวบิน แต่ปริมาณเที่ยวบินจีนที่คาดการณ์ไว้นี้ยังคงน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ถึง 66%
นายณพศิษฏ์กล่าวเพิ่มเติมว่า วิทยุการบินฯ ได้เตรียมพร้อมรองรับเที่ยวบินจีนที่จะเพิ่มขึ้น โดยได้เข้าร่วมในคณะกรรมการจัดสรรตารางการบิน หรือ Slot Allocation ร่วมกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาจัดสรรตารางการบินให้สอดคล้องกับความสามารถในการรองรับ เตรียมความพร้อมและกำหนดแนวทางวิธีปฏิบัติในการให้บริการจราจรทางอากาศ และแนวทางการบริหารจัดการความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ (Air Traffic Flow Management) รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมด้านการบริหารอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศสำหรับรองรับปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมืออันดีกับหน่วยงานผู้ให้บริการการเดินอากาศของจีน Air Traffic Management Bureau, Civil Aviation Administration of China โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการบริหารความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ (Air Traffic Flow Management) ซึ่งจะช่วยให้การบริหารจราจรทางอากาศระหว่างทั้งสองประเทศมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เที่ยวบินจีนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค.66 ทางคณะกรรมการเจ้าหนี้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีมติเห็นชอบการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจกลุ่มธุรกิจการบินของการบินไทยตามแนวทางที่คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการและฝ่ายบริหารนำเสนอ โดยปัจจุบันสายการบินไทยสมายล์เป็นบริษัทย่อยของบริษัทของการบินไทย ซึ่งผลประกอบการของบริษัทย่อย รวมถึงสายการบินไทยสมายล์ถูกรับรู้ในงบการเงินรวมของการบินไทยตามมาตรฐานบัญชี การบินไทยจึงพิจารณาปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจกลุ่มธุรกิจการบินโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการฝูงบินให้สามารถวางแผนและพัฒนาเครือข่ายเส้นทางบินและเที่ยวบินให้ครอบคลุมความต้องการของผู้โดยสาร รองรับการเชื่อมต่อเที่ยวบินได้อย่างไร้รอยต่อ ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค
ตลอดจนยกระดับความสามารถการแข่งขันของการบินไทยในมิติต่างๆ ทั้งด้านต้นทุนการดำเนินงาน การบูรณาการและบริหารจัดการทรัพยากร และกระบวนการทำงาน การสร้างความเป็นเอกภาพในตราผลิตภัณฑ์และตำแหน่งทางการตลาด เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้โดยสาร
หลังจากนี้ บริษัทยังจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2566 นี้ โดยที่ผู้โดยสารยังสามารถซื้อบัตรโดยสารและใช้บริการเที่ยวบินของสายการบินไทยสมายล์ได้ตามปกติในระหว่างที่บริษัท ดำเนินการปรับโครงสร้าง ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการต่อผู้โดยสารของสายการบินไทยสมายล์.