ไทวัสดุ ขอโตเพิ่มอีก 15% เตรียมขยายอีก 10 สาขาทั่วไทยรับดีมานด์ก่อสร้าง

ไทวัสดุ ตั้งเป้าปี 66 เตรียมขยายอีก 10 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ มองดีมานด์การก่อสร้างที่อยู่อาศัยมาแรงรับสัญญาณบวกให้กับธุรกิจ สอดรับเป้าหมายของ CRC ที่สร้างรายได้รวมเติบโตกว่า 15%

นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า ปัจจุบันไทวัสดุ มีส่วนแบ่งการตลาด หรือ Market share ในกลุ่ม Home & Garden specialist retailer เติบโตเพิ่มขึ้นจาก 4.3% ในปี 2555 เป็น 9.8% ในปี 2564 ซึ่งในปี 66 นี้ ทางไทวัสดุเอง ตั้งเป้ายอดขายเติบโตที่ 15%

โดยในปี 66 นี้ไทวัสดุยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการเติบโตตามเป้าหมาย เตรียมขยาย 10 สาขาใหม่ทั่วประเทศ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง และเป็นพื้นที่ที่มีดีมานด์ด้านการก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการขยายของกลุ่มธุรกิจฮาร์ดไลน์ในเครือ ได้แก่ไทวัสดุ, บีเอ็นบีโฮม และเพาเวอร์บาย ซึ่งการเติบโตดังกล่าวได้รับอานิสงส์มาจากปัจจัยที่จะเป็นแรงหนุนให้ตลาดวัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้านเติบโต

โดยมาจากแนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2566 ที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตกว่า 4% ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการเติบโตทางเศษฐกิจ และอิทธิพลบวกจากภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

ขณะเดียวกันในปีนี้จะเป็นการต่อยอดสาขาทั้งในรูปแบบมาตรฐาน หรือ Red Format และแบบไฮบริด ฟอร์แมท หรือ Hybrid Format มีเป้าหมายที่จะขยายฐานผู้บริโภค เจาะกลุ่มเมืองท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เพื่อเป็นศูนย์สินค้าก่อสร้างและตกแต่งบ้านครบวงจร โดยในเดือน ก.พ.ปี 2566 นี้ได้เปิดสาขาไปแล้ว 2 แห่งได้แก่ 1. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขารังสิตคลอง 4 และ 2. ไทวัสดุ สาขาโคราช หัวทะเล

นายสุทธิสาร กล่าวอีกว่า โดยในเดือน มี.ค.นี้ ไทวัสดุเดินหน้าเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา ได้แก่ ไทวัสดุ สาขากำแพงเพชร และไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาภูเก็ต อ.ฉลอง ถือว่าไตรมาสแรกของปีไทวัสดุ รุกเปิดไปแล้วถึง 4 สาขา ทุกภาคทั่วไทย ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ โดยในปี 2566 ไทวัสดุตั้งเป้ามีสาขารวม 80 สาขา ครอบคลุมทุกพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ

โดยธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมธุรกิจก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้านที่ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ที่มีการปรับตัวธุรกิจให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในมิติหลากหลายยิ่งขึ้น และยังมุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่งให้พันธมิตรทางธุรกิจเติบโตไปด้วยกัน ซึ่งถือเป็นการเสริมทัพให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่ง พร้อมส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพแบบครบวงจร