วช. จับมือ OKMD สร้างโอกาสธุรกิจเพื่อความยั่งยืน เร่งผลักดันผู้ประกอบการไทยใช้งานวิจัยพัฒนาสินค้าสู่โมเดลเศรษฐกิจ BCG
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. กล่าวว่า จากการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ โมเดลเศรษฐกิจ BCG หรือ โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ผสมผสานการพัฒนา 3 ด้านหลัก คือ เศรษฐกิจชีวภาพ หรือ Bio Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ Green Economy เป็นวาระแห่งชาติ
โดยประเทศไทยต้องนำโมเดลนี้มาใช้ เพื่อให้ไทยไปสู่เป้าหมายของการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศในด้านสังคม เศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals–SDGs ขององค์การสหประชาชาติ (UN) และยังสอดคล้องกับทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้น
ทั้งนี้ วช.จึงได้ร่วมมือกับ OKMD นำผลงานวิจัยด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาพัฒนาและบูรณาการเป็นหลักสูตรบ่มเพาะ โดยมุ่งผลักดันให้เกิดผู้ประกอบการทั้งรายใหม่และรายเดิม ได้มองเห็นโอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ
ตามแนวเศรษฐกิจ BCG ที่กำลังเป็นแนวโน้มของการร่วมสร้างความยั่งยืนให้กับประชาคมโลก และนำไปพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ เข้าสู่เศรษฐกิจ BCG ใน 3 กลุ่มธุรกิจสำคัญ - ธุรกิจสังคมผู้สูงอายุ ธุรกิจพลังงานสะอาดและผลิตภัณฑ์สีเขียว และกลุ่มธุรกิจเกษตรและอาหาร
ด้าน ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจสำคัญของ OKMD คือการส่งเสริมการเรียนรู้สาธารณะ เพื่อยกระดับศักยภาพและลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงความรู้ของคนไทย โดยทำหน้าที่กระตุกต่อมคิด และกระตุ้นความอยากรู้ให้สังคมไทยก้าวสู่การเป็นสังคมอุดมปัญญา หรือ Knowledge Society ซึ่งเป็นรากฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในโลกยุคใหม่
เราจึงเล็งเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG จากผลงานของนักวิจัยที่สำนักงานการวิจัยแห่งชาติให้การสนับสนุนมาตลอด
ในปีนี้ วช. และ OKMD จึงร่วมมือกันดำเนินกิจกรรมพัฒนาสื่อและถ่ายทอดองค์ความรู้ตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจ BCG ทั้งในรูปแบบของการจัดทำพอดแคสต์ คลิปองค์ความรู้ การจัดเสวนา หัวข้อ โมเดลเศรษฐกิจใหม่ ขับเคลื่อนไทย สู่ความยั่งยืน เพื่อถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และกระตุ้นให้เกิดความตระหนักในการสร้างความยั่งยืน
โดยมีทั้งวิทยากรที่ประสบความสำเร็จ มีประสบการณ์ตรงกับการสร้างโอกาสทางธุรกิจตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจ BCG ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เรายังระดมผู้เชี่ยวชาญกว่า 20 ท่าน มาร่วมจัดเวิร์กช็อปเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจ BCG ใน 3 กลุ่มธุรกิจ ที่กำลังเป็นแนวโน้มสำคัญของโลก คือ
1. กลุ่มธุรกิจสังคมผู้สูงอายุ
2. กลุ่มธุรกิจพลังงานสะอาดและผลิตภัณฑ์สีเขียว
3. กลุ่มธุรกิจเกษตรและอาหาร
รวมทั้งหมด 20 หัวข้อ ใน 12 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ราชบุรี นครราชสีมา พิษณุโลก ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.นี้ ไปจนถึง 11 เม.ย. 66 นี้ โดยคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมมากกว่า 300 คน
นอกจากนี้ การพัฒนาหลักสูตรบ่มเพาะและเผยแพร่องค์ความรู้ที่บูรณาการระหว่างผลงานวิจัยทางวิชาการและองค์ความรู้จากการลงมือปฏิบัติ และนำมาถ่ายทอดผ่านการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการนี้ จะเป็นการกระตุ้นให้มีการสร้างโอกาสทางธุรกิจตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจ BCG ให้กลุ่มเป้าหมาย
อันได้แก่ ผู้ว่างงาน ผู้กำลังเปลี่ยนงาน ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป ที่ต้องการศึกษาองค์ความรู้จากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ BCG นำไปพัฒนายกระดับสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคสอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเรามุ่งหวังให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในการลงมือทำทันทีหลังจากผ่านการอบรม และเป็นการสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจที่เชื่อมโยงกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป