“โออาร์” ตั้งเป้ายอดขายปีนี้เติบโตเกิน 8 แสนล้านบาท รับเศรษฐกิจฟื้น ท่องเที่ยวตื่น จีนยกทัพมาเยือน เปิดงบลงทุน 3.1 หมื่นล้านบาท ลุยธุรกิจไลฟ์สไตล์เตรียมเปิดปั๊ม “แฟล็กชิป สโตร์” ใหม่ เน้นพื้นที่ค้าปลีก พลังงานสะอาด ใช้ AI คำนวณการปล่อยคาร์บอนฯของรถที่ผ่านเข้า-ออกปั๊ม เปิดสาขาแรกวิภาวดี 62 เดือน พ.ค.นี้
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ เปิดเผยว่า ในปีนี้โออาร์จะผลักดันวิสัยทัศน์ “Empowering All toward Inclusive Growth” เพื่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม โดยได้เตรียมงบลงทุน 31,197 ล้านบาท เน้นขยายและสร้างความแข็งแกร่งของ Business Value Chain ของกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ โดยจัดสรรงบ 14,193 ล้านบาท หรือ 45% ของงบลงทุน รองรับสำหรับการขยายสาขาร้านคาเฟ่อเมซอนอีก 400 แห่ง และร้าน Texas Chicken
“โออาร์ยังจะแสวงหาพันธมิตรและการลงทุนใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ โดยนอกจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) แล้ว ยังให้ความสำคัญในกลุ่มธุรกิจด้าน Health & Wellness และ Tourism โดยตั้งเป้าจะมีสัดส่วนกำไรธุรกิจไลฟ์สไตล์ เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 25-29% ในปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 25%”
นายดิษทัต กล่าวว่า เมื่อปีที่ผ่านมา ธุรกิจเดิมๆของโออาร์ยังเป็นตัวนำในการขับเคลื่อนการเติบโต แต่ปีนี้จะเน้นธุรกิจไลฟ์สไตล์ เพราะตอบโจทย์เรื่องกำไรได้ดี โดยเดือน พ.ค.นี้ โออาร์ จะเปิดปั๊มน้ำมันโฉมใหม่ที่เป็นลักษณะ “แฟล็กชิป สโตร์” สาขาวิภาวดี 62 ที่จะเป็นปั๊มขนาดใหญ่ ที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มพื้นที่ค้าปลีกมากขึ้น และใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มุ่นเน้นพลังงานสะอาด เช่น การติดตั้งปั๊มชาร์จอีวีและโซลาร์รูฟท็อป
นอกจากนี้ ยังจะมีระบบแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานและนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาใช้คำนวณการปล่อยคาร์บอนฯของรถแต่ละคันที่ผ่านเข้า-ออกปั๊ม ซึ่งปั๊มแฟล็กชิปสโตร์นี้จะเป็นต้นแบบขยายไปสู่ปั๊มแฟล็กชิปสโตร์อื่นๆให้มากขึ้นในอนาคต โดยคาดว่าปั๊มแฟล็กชิปสโตร์สาขาแรกจะเปิดให้บริการได้ในเดือน พ.ค.นี้ และแห่งที่ 2 ในไตรมาส 3
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่มีอยู่เดิมจะมุ่งรักษาความเป็นผู้นำ ทั้งการขยายสาขา PTT Station ที่มีเป้าหมายเพิ่มอีก 100 แห่ง และ EV Station PluZ เพิ่มอีก 500 เครื่องชาร์จ จากปัจจุบัน 300 เครื่องชาร์จ และ 7,000 เครื่องชาร์จ ภายในปี 2573 เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน EV ในไทยภายในปีนี้
ส่วนการลงทุนธุรกิจ Green Energy เพื่อเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของแหล่งพลังงาน ไม่ว่าจะต้องการพลังงานชนิดใดสำหรับการเดินทาง เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ โดยจัดสรรงบไว้รวม 6,799 ล้านบาท หรือ 22% ของงบลงทุน “ปีนี้คาดว่ายอดขายน้ำมันของโออาร์จะเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มียอดขาย 800,000 ล้านบาท ตามการเติบโตของภาวะเศรษฐกิจประเทศไทย ตลอดจนการเปิดประเทศของจีนทำให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในไทยจำนวนมาก และยอดขายน้ำมันเครื่องบิน (เจ็ท) จะกลับไปสู่ระดับใกล้เคียงก่อนเกิดโควิด-19
“ผมมองว่าราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 80-89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงจากปีที่ผ่านมา ที่ราคาปิด ณ สิ้นปีอยู่ที่ 96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยโออาร์จะยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) เบอร์ 1 ไว้ที่สัดส่วน 43.2%” ส่วนกลุ่มธุรกิจ OR Innovation ยังจะลงทุนในนวัตกรรมเพื่อพัฒนาโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไป โดยจัดสรรงบประมาณจำนวน 5,251 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 17% ของงบลงทุน
นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ โออาร์ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาตลาดการค้าน้ำมันของประเทศ ไทยเติบโต 15% จากปี 2564 ขณะที่โออาร์มีอัตราการเติบโต 18% หรือมีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้น 1.2% อยู่ที่ 43.2%.