นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า การที่ประเทศไทยกำลังจะมีการเลือกตั้งใหญ่ จะช่วยหนุนส่งให้ตลาดรถจักรยานยนต์เพิ่มความคึกคัก นอกจากนี้ ยังได้สัญญาณที่ดีจากการคาดการณ์เศรษฐกิจ และการลงทุนในปีนี้ ของภาครัฐจะส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้น พร้อมกับโควิด-19 มีความเบาบางลงจนเป็นโรคประจำถิ่น ทำให้ภาพรวมของระบบเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในประเทศมีการฟื้นตัวภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์ จึงจะมียอดขายโดยรวมทุกยี่ห้ออยู่ 1.8 ล้านคัน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ในด้านปัจจัยเสี่ยงของปีนี้ยังคงเป็นเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น การขาดแคลนชิ้นส่วนและวัตถุดิบไม่เพียงพอในบางรุ่น รวมถึงกฎหมายควบคุมดอกเบี้ยเช่าซื้อ ที่มีผลต่อผู้บริโภค
“ในปีนี้ยามาฮ่าได้ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 16.5% หรือ 295,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น อีก 4% เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา พร้อมเร่งกำลังการผลิต และมุ่งเน้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ รวมถึง กลยุทธ์การขายและการตลาด เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่ง และทำให้ส่วนแบ่งการตลาดเติบโตเพิ่มขึ้น”
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เอ็มจีคาดการณ์ตลาดรถยนต์โดยรวมทุกยี่ห้อในไทย ปีนี้จะเติบโตมากกว่าปีที่แล้ว โดยได้ปัจจัยหนุนทั้งการที่โรคระบาดโควิด-19 ที่คลี่คลายลง อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ดีขึ้น รวมทั้งการท่องเที่ยวที่คึกคัก ที่สำคัญปีนี้ยังจะมีการเลือกตั้งที่ทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัด มากขึ้น ยิ่งถ้าหลังเลือกตั้งมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยเร็วก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้การพิจารณา งบประมาณในปลายปีนี้เป็นไปตามกำหนด ไม่สะดุด จึงเชื่อว่าตลาดรถโดยรวมปีนี้มียอดขายไม่ต่ำกว่า 880,000 คัน โดยเอ็มจีตั้งเป้าจะมียอดขาย 50,000 คัน และเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า.