ศุภาลัย ลุยแผนธุรกิจปี 66 พร้อมเปิดโครงการแนวราบ 34 โครงการ แนวสูงอีก 3 โครงการ มูลค่า 41,000 ล้านบาท มั่นใจยอดขายทำนิวไฮแตะ 36,000 ล้าน
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 66 ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 เริ่มฟื้นตัวและมาตรการกระตุ้นธุรกิจ ด้วยการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และมาตรการผ่อนคลาย LTV ทำให้เกิดการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค
สำหรับปี 2566 คาดว่า สภาพเศรษฐกิจจะเติบโตดีขึ้นต่อเนื่อง และกำลังซื้อจากต่างชาติจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง อีกทั้งมีการต่อมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยปี 2566
เช่นการลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 1% ของราคาประเมินหรือราคาขาย (มาตรการก่อนหน้าลดเหลือเพียง 0.01%) และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% จากยอดเงินกู้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้เป็นปีที่ดีแม้จะมีเรื่องภาวะเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
สำหรับภาพรวมของศุภาลัย เราได้ลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่ประเทศออสเตรเลีย ได้มีการลงทุนไปแล้ว 12 โครงการ มูลค่าโครงการ 52,600 ล้านบาท ด้วยเม็ดเงินลงทุนรวมของศุภาลัย 9,748 ล้านบาท ซึ่งมีการเติบโตเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการลงทุนธุรกิจอื่นๆ เช่น Resort Housing, Rental Office, Serviced Condo, Community Mall / Market ในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ และ Co-Working ชื่อว่า MEET & CO
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ SPALI กล่าวว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา เราทำยอดขายรวม 32,433 ล้านบาทสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 35% หรือ 28,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 64 ที่ทำได้ 24,069 ล้านบาท
โดยที่ผ่านมาเราเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งแนวราบ และคอนโดมิเนียม 31 โครงการ มูลค่ารวม 37,800 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 28 โครงการ ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล 10 โครงการ, ภูมิภาค 18 โครงการ
ส่วนคอนโดมิเนียม 3 โครงการ กรุงเทพฯ และปริมณฑล 2 โครงการ, ภูมิภาค 1 โครงการ จากความสำเร็จด้านยอดขายมีผลอันเนื่องมาจากบริษัทฯ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง สามารถเปิดตัวโครงการใหม่ในแต่ละจังหวัดโดยมีการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี สินค้ามีความหลากหลาย และตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับปี 2566 เราตั้งเป้ายอดขายและรายได้ 36,000 ล้านบาท โดยเราจะเปิดตัวโครงการใหม่ 37 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 34 โครงการ มูลค่า 32,700 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่า 8,300 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวม 41,000 ล้านบาท และกำหนดงบประมาณการจัดซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ มุ่งเน้นสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ด้วยความมั่นคง และยั่งยืน
"ในปีนี้เราเตรียมทำโครงการภูมิภาคต่างๆ ในจังหวัดใหม่ๆ ที่มีทำเลศักยภาพและมีความต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ปัจจุบันศุภาลัยพัฒนาโครงการครอบคลุม 28 จังหวัด โดยปีนี้เราเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ใน 5 จังหวัดใหม่ ได้แก่ ลำปาง ลำพูน นครปฐม ราชบุรี และจันทบุรี"
ด้านนายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานก่อสร้างอาคารสูง SPALI กล่าวอีกว่า เราพร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียวบ้านและคอนโดมิเนียมศุภาลัย คัดสรรวัสดุการก่อสร้างเน้นประหยัดพลังงาน ลดความร้อน ลดการใช้น้ำ ลดขยะ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสานต่อโครงการ Waste Management ในกระบวนการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง
เช่น การเลือกใช้ท่อที่ตัดพอดีกับความยาวที่ใช้จริง การเปลี่ยนพาเลทไม้ที่ใช้ขนส่งอิฐมวลเบาให้เป็นพาเลทพลาสติกซึ่งทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น การกำหนดขนาดของลูกปูนในการทดสอบกำลังรับแรงอัดของคอนกรีตให้มีขนาดที่เหมาะสม แต่ยังคงประสิทธิภาพเดิมไว้ได้
ตลอดจนการนำเศษวัสดุเพื่อกลับมาใช้ใหม่อย่างเช่น สายรัดวัสดุก่อสร้างนำไปสานเป็นตะกร้า หรือเศษอิฐมวลเบานำไปทำเป็นกระถางต้นไม้ เพื่อลดปริมาณความสูญเสียของวัสดุก่อสร้าง และสามารถจัดการกับเศษวัสดุก่อสร้างให้เกิดมูลค่า และประโยชน์สูงสุดอีกด้วย