พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นที (NT) เปิดเผยว่า NT ได้นำเสนอแผนลงทุนให้บริการบนคลื่นความถี่ 700 MHz และ 26 GHz มูลค่ารวมกว่า 13,000 ล้านบาท เข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในวันที่ 19 ม.ค.66 เพื่อเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป คาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือน ก.พ. “การลงทุนบนคลื่น 700 MHz ที่ล่าช้ามากว่า 2 ปีแล้วทำให้เราขาดทุนทางบัญชีแล้วกว่า 6,600 ล้านบาท หลังประมูลคลื่นมาได้เมื่อวันที่ 16 ก.พ.63 จำนวน 10 MHz มูลค่า 34,306 ล้านบาท การไม่นำมาใช้ประโยชน์ใดๆ เป็นการเสียโอกาสทางธุรกิจอย่างยิ่ง”
ทั้งนี้ การลงทุนใน 2 โครงการดังกล่าว แบ่งเป็นคลื่น 700 MHz จำนวน 5 MHz มูลค่าราว 10,000 ล้านบาท ผ่านการเป็นพันธมิตรร่วมกับเอไอเอส โดย NT จะลงทุนในโครงข่ายหลัก Core Network และ Transmission ในระบบ 4G และให้บริการผ่านสถานีฐานและโรมมิ่งกับเครือข่ายเอไอเอส วงเงินลงทุนนี้ ครอบคลุมบริการ 4 ล้านเลขหมายตลอดอายุใบอนุญาต “การลงทุนครั้งนี้ยังจะรองรับลูกค้ามือถือของ NT จำนวน 2.7 ล้านเลขหมาย ที่ปัจจุบันให้บริการอยู่บนคลื่น 850 MHz ซึ่งใบอนุญาตจะหมดอายุลงในปี 68 ด้วย โดยอยากให้เข้าใจว่าการลงทุนของ NT จะไม่เน้นแข่งขันกับเอกชนเพราะแข่งไม่ได้ แต่จะมุ่งไปในตลาดที่พอมีศักยภาพ เช่น ตลาดองค์กรที่เป็นหน่วยงานราชการ”
ส่วนแผนลงทุนคลื่น 26 GHz นั้น เป็นการลงทุน 5G Enterprise Private Network เพื่อให้บริการบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ที่โรงงานแห่งแรกในนิคมอุตสาหกรรมบางปู วงเงิน 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนบนคลื่น 26 GHz จะเป็นการลงทุนตามการใช้งานจริง หากมีความต้องการหรือหาลูกค้าได้เพิ่ม จึงค่อยลงทุนเพิ่ม “โครงการ 700 MHz คาดว่าจะมีผลตอบแทน 7% ขณะที่โครงการ 26 GHz คาดว่าจะมีผลตอบแทนราว 20%”.