SME ควรรู้จักสไนเปอร์ มาร์เก็ตติง การตลาดแม่นยำเฉพาะจุด กระตุ้นยอดขาย

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

SME ควรรู้จักสไนเปอร์ มาร์เก็ตติง การตลาดแม่นยำเฉพาะจุด กระตุ้นยอดขาย

Date Time: 4 ม.ค. 2566 13:50 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • SME ควรรู้จัก "สไนเปอร์ มาร์เก็ตติง" การตลาดแม่นยำเฉพาะจุด พร้อมหาโอกาสจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว ปล่อยกลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย

Latest


SME ควรรู้จัก "สไนเปอร์ มาร์เก็ตติง" การตลาดแม่นยำเฉพาะจุด พร้อมหาโอกาสจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว ปล่อยกลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย

นายวรวุฒิ อุ่นใจ ผู้ก่อตั้ง Officemate และอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2566 นี้ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังส่งผลกระทบต่อประเทศไทย โดยในภาพรวมจะยังได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดโควิดที่เกิดขึ้นช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

รวมถึงสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังไม่มีท่าทีผ่อนคลาย จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นถือเป็นวิกฤติที่กระทบยังภาคธุรกิจเอสเอ็มอีไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยในปี 2566 ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่หากมองปัจจัยบวกของไทยยังได้รับการสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวของประเทศที่ทยอยกลับมาฟื้นตัวตั้งแต่กลางปี 2565 ที่ผ่านมา ถึงขณะนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังไทยมากกว่า 11 ล้านคน

ทั้งนี้ ในปี 2565 ที่ผ่านมาไม่ว่าจะทำธุรกิจใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว คาดจะมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นตาม ด้วยภาคการท่องเที่ยวของไทยจะมีความร้อนแรงมากขึ้น ด้วยไทยยังคงเป็นเดสติเนชันการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอาการที่เรียกว่า Bangkok Blue ที่เกิดขึ้นกับชาวต่างชาติ แถบยุโรป แคนาดา ที่มีอาการไข้คิดถึงกรุงเทพฯ หลังจากมาเที่ยวและกลับไปบ้าน

นายวรวุฒิ มองอีกว่า ไทยสามารถกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ผ่านการบริโภคภายในประเทศทั้งกำลังซื้อจากคนไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางกลับมายังไทยเป็นจำนวนมาก สร้างการจับจ่ายให้เกิดขึ้น เป็นไปตามกลไกของจีดีพี ซึ่งไทยมีความแข็งแกร่งจากโครงสร้างระบบการให้บริการด้านต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในช่วงก่อนสถานการณ์โควิดได้ถึงเกือบ 100 ล้านคน

สำหรับในปี 2566 เศรษฐกิจไทยจะได้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว กระตุ้นทุกภาคส่วนรวมถึง อุตสาหกรรมไมซ์ ที่จะเข้ามาเชื่อมต่อ หรือที่เรียกว่า MICE Connect ในทุกภาคส่วนธุรกิจ บริการที่เกี่ยวข้องเป็นลูกโซ่ และยังเป็นปีแห่งการปรับเปลี่ยนผู้ประกอบการไทยในการเข้าไปสู่แพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น

เพื่อให้ทันกับความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ ที่คุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีในช่วงการแพร่ระบาดโควิดที่ผ่านมา ทั้งการสั่งอาหารผ่านบริการฟู้ดเดลิเวอรี การซื้อสินค้าบริการออนไลน์ เป็นต้น โดยคนไทยยังติดอันดับหนึ่งในห้าของโลกที่มีการจับจ่ายสินค้าออนไลน์มากที่สุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางรอดของเศรษฐกิจไทยในอนาคต ด้วยเช่นกัน

ขณะเดียวกัน SME ไทยยังมีจุดแข็งด้านการผลิตที่แข็งแกร่ง แต่ยังติดกับดักด้านนวัตกรรมสินค้าและการตลาดช่องทางออนไลน์ ซึ่งแตกต่างกับผู้ผลิตสินค้าในประเทศจีนที่มีระบบการค้าครบวงจร รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซออนไลน์ในประเทศเอง เช่น เถาเป่า อาลีบาบา ฯลฯ ลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากต่างประเทศถือเป็นการบายพาสธุรกิจค้าปลีกทั้งระบบของจีน ซึ่งกระตุ้นการบริโภคได้ในภาพรวม ด้วยการให้ทุกคนสามารถทำการค้าขายออนไลน์ และก้าวข้ามกับดับความยากจนได้

นอกจากนี้ SME ไทยยุคใหม่ ยังต้องให้ความสำคัญต่อการเก็บรวบรวมฐานข้อมูลด้านต่างๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์บริการให้ตรงตามความต้องการลูกค้าให้มากขึ้น ด้วยจากนี้ไป ข้อมูลจะเป็นทรัพย์สินสำคัญในการทำธุรกรรมต่างๆ ในอนาคต โดยเฉพาะ Data Transaction ที่เกิดขึ้นเพื่อให้ธุรกิจรับรู้เทรนด์ความต้องการของลูกค้าที่จะเกิดขึ้นในระยะต่างๆ เพื่อคาดการณ์การผลิตสินค้าบริการออกมารองรับ

โดยจากนี้ไปจะได้เห็นการนำข้อมูลมาร่วมวิเคราะห์การทำตลาดแบบเฉพาะเจาะจงรายบุคคลมากขึ้น หมดยุคยิงกราดแล้วด้วยปืนกลแล้ว แต่จะเปรียบเสมือการใช้สไนป์เปอร์ มาเจาะแต่ละรายตัวลูกค้าแทน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางการตลาดและการขายที่แม่นยำมากขึ้น

อย่างไรก็ตามในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจถดถอยที่ทั่วโลกจะต้องเผชิญหน้าในปี 2566 ทำให้เอสเอ็มอีมีความยากลำบากมากขึ้นไปอีก ซึ่งการจะทำมาค้าขายให้มีความคล่องตัวได้นั้น นอกจากการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ แล้วยังจะต้องย้อนกลับมาถามว่าสินค้า บริการของตัวเองนั้นมีดีและแตกต่างไปจากคู่แข่งในตลาดเดียวกันด้านใด

ประการแรก คือ หาวิธีการสร้างการรับรู้สินค้าในกลุ่มเป้าหมายให้ได้ และใส่นวัตกรรมสินค้าเข้าไป ซึ่งปัญหาหลัก 80% ของเอสเอ็มอีไทย คือ คุณภาพสินค้า ส่วนลำดับถัดไป คือ การทำตลาด (Marketing) เพื่อทำให้ลูกค้ารู้จักสินค้าให้ได้มากที่สุดผ่านช่องทางหรือแพลตฟอร์มที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง

"ช่วงวิกฤติแบบนี้ทุกคนต้องเหนื่อยกว่าช่วงปกติหลายเท่าตัว อย่างเช่นหากขายข้าวเหนียวห่อหมูปิ้งธรรมดาเหมือนๆ กับเจ้าอื่นทั่วไป ก็ต้องไปหาวิธีทำยังไงให้อร่อยแบบกินพร้อมกับข่าวเหนียวถือมือเดียวได้ อันนี้ก็ต้องต้องลองผิดลองถูกก่อน ใช้ความขยันเป็นพิเศษแต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยก็ไม่รอด"

สำหรับเทรนด์ธุรกิจในปี 2566 จะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม และ เวล บีอิง (Well Being) ซึ่งเจ้าของธุรกิจ SME จะปรับตัวไปในทิศทางใดนั้น ขึ้นอยู่กับว่าสามารถตีโจทย์สินค้า บริการเดิมที่มีอยู่แตกหรือไม่ หรือตรงกับความต้องการตามกระแสที่เกิดขึ้น

"การจะทำธุรกิจใดๆ ก็ตามถือว่าดีทั้งหมด แต่สุดท้ายคำตอบอยู่ที่การหาวิธีการว่าจะทำอย่างไรมากกว่า ด้วยการสะท้อนออกมาเป็นภาพรวมทั้งหมด เช่น การทำร้านกาแฟ เครื่องดื่มมีรสชาติดีหรือไม่ ร้านตกแต่งบรรยากาศเป็นอย่างไร ซึ่งในปี 2566 นี้จะมีทั้งธุรกิจรุ่งและร่วง"

สำหรับการทำธุรกิจ SME ให้ประสบความสำเร็จ คือ เจ้าของธุรกิจควรให้ความสำคัญกับระบบัญชี โดยเฉพาะการจัดทำบัญชีเดียวเพื่อแสดงรายรับรายจ่ายของธุรกิจที่เกิดขึ้นตามจริง เพื่อสะท้อนต้นทุนการดำเนินงานของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจะเป็นผลดีกับธุรกิจมากกว่า รวมไปถึงการจดรายการใช้จ่ายด้านต่างๆ ทั้งส่วนตัวและทางธุรกิจ โดยตัดทิ้งค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นออกไป ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งวิธีลดต้นทุนและช่วยให้ธุรกิจประคับประคองไปได้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจถดถอย.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ