ไทยเวียตเจ็ท ลุยเส้นทางบินระหว่างประเทศ พร้อมแก้ปัญหาเที่ยวบินดีเลย์

ไทยเวียตเจ็ท ลุยเส้นทางบินระหว่างประเทศ พร้อมแก้ปัญหาเที่ยวบินดีเลย์ ด้วยการเพิ่มเครื่องบินให้มากขึ้น พร้อมแจ้งผู้ให้บริการแก้ปัญหารอกระเป๋านาน

นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวว่า ที่ผ่านมาสายการบินได้แก้ปัญหาเรื่องเครื่องบินดีเลย์มาโดยตลอด ซึ่งปัญหามาจาก 2 ปัจจัยด้วยกัน คือ เครื่องบินไม่พอใช้งาน แม้เราจะนำเข้าเครื่องบินมาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ทันที ต้องขออนุญาตทำการบินก่อน ส่วนอีกเครื่องนำไปส่งซ่อมก็ยังไม่ได้รับการส่งมอบ ในวันนี้ 2 ธ.ค. 65 นี้จะนำเครื่องบินกลับมาใช้งานได้ ปัญหาเรื่องเครื่องบินขาดแคนก็จะหมดไป

ส่วนปัจจัยที่ 2 คือ ปัญหาการจัดการกระเป๋า อย่างที่ทราบกันดีว่าสนามบินสุวรรณภูมิไม่อนุญาตให้สายการบินจัดการเรื่องกระเป๋าผู้โดยสาร ไม่เหมือนกับสนามบินดอนเมือง ซึ่งเราได้แจ้งปัญหาไปยังผู้ดูแลแล้ว และเราคาดหวังว่าปัญหาดังกล่าวจะได้รับการแก้ไขเร็วๆ นี้ 

"สายการบินไทยเวียตเจ็ท  มีเป้าหมายเพิ่มเครื่องบินอีก 3 ลำในปี 66 และตั้งเป้าจะต้องมีเครื่องบิน 50 ลำ ภายในปี 2569" 

สำหรับการดำเนินงานตลอดปี 65 ที่ผ่านมา สายการบินไทยเวียตเจ็ทเดินหน้าขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องสู่หลากหลายปลายทางทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ปัจจุบัน ไทยเวียตเจ็ทให้บริการเที่ยวบินตรงจาก กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ สิงคโปร์ ฟุกุโอกะ ไทเป พนมเปญ และหลากหลายเส้นทางในประเทศเวียดนาม ได้แก่ โฮจิมินห์ซิตี้ ดานัง และฟู้โกว๊ก

"ในปี 65 เราให้บริการผู้โดยสารแล้วกว่า 5 ล้านคน พร้อมให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศไม่ต่ำกว่า 9,000 ตัน ซึ่ง ไทยเวียตเจ็ท และ เวียตเจ็ท กรุ๊ป ได้ให้บริการเที่ยวบินระหว่าง ไทยและเวียดนามแล้วรวมกว่า 2,500 เที่ยวบิน ขนส่งผู้โดยสารกว่า 350,000 คน ล่าสุดเราก็เปิดเที่ยวบินระหว่าง กรุงเทพฯ และ ดาลัดอีกครั้ง"

สำหรับเป้าหมายในปี 66 นั้นเราจะเน้นเส้นทางบินระหว่างประเทศให้มากขึ้น เพราะเรามองว่าเส้นทางบินในประเทศเราครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่แล้ว โดยเราจะเน้นดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยมากขึ้น จึงโฟกัสตลาดต่างประเทศเป็นหลัก

ปิ่นยศ พิบูลสงคราม ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวว่า ในเดือนก.พ. 66 นี้เราจะเปิดเที่ยวบินใหม่ คือ เชียงใหม่-โอซากา ซึ่งเป็นเส้นทางใหม่ที่ไทยเวียตเจ็ทยังไม่เคยบินมาก่อน โดยคาดว่าราคาตั๋วอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาท นอกจากนี้ เรายังแพลนเปิดเที่ยวบินใหม่ๆ เช่น อินเดีย จีน เกาหลีใต้ และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย

โดยระหว่างนี้ เราได้เพิ่มความถี่เที่ยวบินบนเส้นทางระหว่าง กรุงเทพฯ-ฟุกุโอกะ เป็น 1 เที่ยวบินต่อวัน พร้อมเพิ่มความถี่เที่ยวบินระหว่าง กรุงเทพฯ-ไทเป เป็น 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในเดือนธ.ค. 65 และจะปรับเพิ่มเป็นวันละ 2 เที่ยวบิน ในเดือนม.ค. 66

นกกจากนี้ เรายังได้กลับมาให้บริการ Sky Café ซึ่งเป็นคาเฟ่บนอากาศยานโดยมีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินให้บริการอาหารไทยและอาหารนานาชาติแก่ผู้โดยสารบนเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศในเดือนก.ค. 65 ที่ผ่านมาหลังจากหยุดให้บริการอย่างยาวนานเพราะโควิด

ขณะเดียวกันเรายังได้ปรับปรุงระบบคอลเซ็นเตอร์ โดยใช้แชตบอตเข้ามาดูแล ก็พบว่าลูกค้ามีความพึงพอใจในการบริการสูงถึง 80% นอกจากนี้เรายังพัฒนาตัวแอปพลิเคชันให้ใช้งานง่ายขึ้นโดยเฉพาะการให้บริการลูกค้า.